เที่ยว Lake Wolfgang
2วันที่ผ่านมา เที่ยว Salzburg กันจบแล้ว เช้านี้เราจะมุ่งหน้าสู่ ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดที่หนึ่งของ Salzburg ประเทศออสเตรีย นั่นก็คือ… Lake Wolfgang ค่ะ
แอดมินขอยกให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ประทับใจที่สุดของทริปด้วยนะคะ เนื่องจากเป็นวันที่อากาศแจ่มใส ไม่ร้อน ไม่หนาว ฝนไม่ตก วิวเหมือนอยู่บนสวรรค์ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ (ยกเว้นค่าเดินทางแพงไปนะ)
Hallstatt ก็สวยนะกินกันไม่ลง แต่วันนั้นฝนตก และหนาวมาก ก็เลยยกให้ St. Wolfgang ไปค่ะ
ทำไมถึงเลือกมา St. Wolfgang
จริงๆแล้วถ้าพูดถึงทะเลสาบในยุโรป ก็บอกยี่ห้ออยู่แล้วค่ะว่า “ต้องสวย”
แต่ที่เลือกมาที่ Lake Wolfgang ก็เพราะ…เห็นคนอื่นเขามากันนั่นเอง แหะๆ…
Lake Wolfgang ไม่ใช่ทะเลสาบที่เดียว ที่เป็นที่ฮิตๆนะคะ ยังมี Hallstätter See
หรือที่เราคุ้นหูในชื่อ Hallstatt ซึ่งพวกเราจะไปกันในวันรุ่งขึ้นค่ะ
ทำไมต้องไปที่คนอื่นเขานิยมไปกันล่ะ
ก็นี่เป็นครั้งแรกของการเที่ยวยุโรปของพวกเรา เราก็อยากไปที่ที่เขาไปกันก่อนน่ะสิคะ
การเดินทาง การการันตีความงาม ก็น่าจะพอมีเหตุผลสำหรับคนมีเวลา(เงิน)ไม่มาก
เอาเป็นว่าถ้าคนเคยไปแล้ว ชำนาญแล้ว คงไม่มาอ่านบทความนี้หรอกมั๊ง
คงหาที่เที่ยวแปลกๆ ที่คนไทยไม่ค่อยฮิตได้อยู่แล้วเนอะ
งั้นเรามาเข้าเรื่อง Lake Wolfgang ของเราต่อดีกว่านะ
St. Wolfgang เป็นชื่อเมืองเล็กๆ (เล็กมากๆ) ที่อยู่ตรงกลางแนวทะเลสาบ
ตรงหัวเป็นเมือง St. Gilgen และตรงท้ายสุดเป็นเมือง Strobl
ส่วนทะเลสาบนี้ชื่อ Wolfgangsee ไม่ใช่ทะเลสาบ St. Wolfgang
(See = Lake)
การเดินทางไป St. Wolfgang
ที่นี่ไม่มีสถานีรถไฟนะคะ (มีแต่รถไฟท่องเที่ยวขึ้นเขา) ดังนั้นจะมาได้ ต้องนั่งบัสเท่านั้น
วิธีการค้นหาวิธีการเดินทางก็เหมือนกับเมืองอื่นๆค่ะ เข้าเวป http://fahrplan.oebb.at/
ใส่ต้นสาย ปลายทาง ถ้าไม่รู้ชื่อก็กด Show map หรือจิ้มเอาจากแผนที่ในกูเกิลก็ได้
ก่อนอื่นเราต้องตัดสินใจก่อนว่า เราจะไปลงที่ไหนดี เพราะจุดลงมันมีเยอะนะคะ
จุดแรก ท่าเรือ St. Gilgen
เป็นท่าเรือเริ่มต้นการล่องทะเลสาบ มีเมืองเล็กๆ ที่ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร
แต่พอมาถึงแล้ว ต้องเลื่อนเวลาเรือออกไปเลยค่ะ เพื่อเดินสำรวจเมืองนี้ให้ทั่ว (ลากกระเป๋าเดินด้วยนะ)
เมืองนี้ใช้ได้เลยนะคะ สวย ท้องถิ่นจริงๆ น่าจะให้เวลาอย่างน้อย 1 ชม.ค่ะ
ท่าที่2 ชื่อ Fürberg และท่าที่3 ชื่อ Ried
สองท่าเรือนี้เป็นสถานตากอากาศ ไม่เห็นมีเมืองอะไรนะคะ มีแต่เกสเฮ้าส์ดูดีๆ
ถ้าไม่ได้จองที่พัก ไว้นอนเล่นที่นั่น อย่าลงนะคะ ไม่งั้นต้องซื้อตั๋วใหม่นะ เดินไปก็ไกลมากๆด้วย
ท่าที่4 ชื่อ St. Wolfgang im Salzk. Schafbergbahn
เป็นท่าเรือสำหรับคนที่จะขึ้นรถไฟสายคลาสสิค ขึ้นเขาที่ชื่อ Schafberg
ค่าเรือจาก St. Gilgen มาที่นี่คนละ 4.7 ยูโร
ท่าที่5 ชื่อ St.Wolfgang im Salzk. Markt
เป็นท่าเรือที่อยู่ใจกลางเมือง St. Wolfgang ที่สุด และมีคนรอขึ้น และรอลงเยอะที่สุด
ค่าเรือจาก St. Gilgen มาที่นี่คนละ 4.7 ยูโร
ท่าที่6 ชื่อ Gschwendt-Parkplatz
เป็นทางฝั่งตรงข้าม (อันนี้ไม่ค่อยรู้นะคะ)
ท่าที่7 ชื่อ Strobl
เป็นท่าเรือสุดท้าย เป็นเมืองที่ใหญ่พอๆกับ St. Gilgen
เมืองนี้พวกเราไม่เคยไปค่ะ คิดอยากไปดูเหมือนกัน แต่คงเสียเงิน เสียเวลาเยอะขึ้น ก็เลยไม่ไปค่ะ
คำแนะนำ
ถ้าขี้เกียจเดิน หรือมีคนสูงอายุมาด้วย ก็ลง St.Wolfgang im Salzk. Markt นั่นแหละค่ะ ใกล้จุดชมวิวที่สุดแล้ว
แต่สำหรับพวกเรา ตอนแรกก็คิดจะลง Markt แหละ แต่เปลี่ยนใจกระทันหัน ขอลง Schafbergbahn ดีกว่า จะได้ดูรถไฟด้วย แล้วได้เดินดูทางไปเรื่อยๆด้วย
เที่ยว St. Wolfgang ไปยังไง?
ถ้ามาจาก Salzburg
ขึ้นบัสสาย 150 ต่อเดียวถึง (สายนี้จะไปสุดสายที่ Bad Ischl)
จากนั้นก็ลงที่ St. Gilgen แล้วนั่งเรือต่ออีกที
Bad Ischl เป็นที่ที่เราจะไปพักคืนนี้นะคะ
แต่พวกเราอยากเสียเงิน (อยากเที่ยวระหว่างทาง) ก็เลยลงที่ St.Wolfgang ก่อน
มีอีกวิธีที่ถูกกว่า แต่ไม่ได้ล่องเรือนะ…
คือขึ้นบัสสาย 150 แต่ไปลง Strobl แล้วนั่งบัสสาย 546 ย้อนขึ้นมาอีกที
แบบนี้ก็ได้นะ ประหยัดค่าเรือ ความเห็นส่วนตัวนะ แอดมินชอบนั่งชมวิวที่ฝั่งมากกว่านะ
นั่งเรือไม่ค่อยมีที่นั่งหรอก ฝรั่งแย่งหมด จะได้นั่งก็ข้างในห้องอาหารร่มๆ ที่ไม่ได้รับลมอะไร
แต่ถ้านั่งหน้าเรือ วิวดีมาก ก็อยู่กลางแดดจ้าๆ ร้อนๆอีก (ฝรั่งชอบตากแดด)
ยังไงก็แล้วแต่คนชอบนะคะ …
ถ้ามาจาก Hallstatt หรือที่อื่นๆเช่น เวียนนา
ก็ต้องมาลงรถไฟที่ Bad Ischl ซึ่งเป็นชุมทางรถไฟที่เดียวในระแวกนั้น ที่ใกล้ที่สุดแล้ว
จากนั้นก็ต่อรถบัสสาย 546 อีกที
แถวนี้ไม่มีพาสอะไรนะคะ single ticket ลูกเดียว
ทางเลือก
– ชอบประหยัดเงินและเวลา เที่ยวแบบชะโงกทัวร์ นั่งบัสชมทะเลสาบ นั่งสาย 150 สายเดียว Bad Ischl – Salzburg
– ชอบล่องเรือ ก็ต้องลงบัสที่ St. Gilgen หรือไม่ก็ Strobl ล่องเหนือยันใต้ หรือใต้ยันเหนือ
– ชอบดื่มด่ำ slowlife ค้างริมทะเลสาบ ก็ต้องค้าง St. Wolfgang (ได้ข่าวว่าโรงแรมแพง)
สำหรับพวกเราเลือกแบบลูกผสมค่ะ
นั่งบัสสาย 150 จาก Salzburg มาลง St. Gilgen
ต่อเรืออีกที ไปลง St. Wolfgang im Salzk. Schafbergbahn
จากนั้นนั่งบัสสาย 546 ไปลง Bad Ischl และค้าง Bad Ischl ด้วย
Lake Wolfgang มีอะไรน่าเที่ยว
Schafbergbahn รถไฟคลาสสิคขึ้นเขาที่จะเห็นทะเลสาบ 3 แห่งล้อมรอบ ราคา 34 ยูโร
พวกเราไม่กล้า(จ่าย)เลยผ่านไป
ส่วนที่เที่ยวอื่นๆ ไม่รู้นะคะ อาจจะเป็นกระเช้า สกี (เห็นอยู่ลิบๆ)
รู้แต่ว่าที่นี่ วิวสวยสุดยอด เหมือนอยู่บนสวรรค์เลย
แค่ได้มานอนเล่น ดูวิว ก็คุ้มแล้วค่ะ เกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรสวยขนาดนี้มาก่อน (ตอนนั้นยังไม่ได้ไป Hallstatt)
[เที่ยวยุโรป] From Salzburg to St. Gilgen (Lake Wolfgang) : Austria Travel Vlog Ep.93
[เที่ยวยุโรป] Lake Wolfgang (Wolfgangsee), St. Wolfgang : Austria Travel Vlog Ep.94
[เที่ยวยุโรป]Taking bus from St. Wolfgang to Bad Ischl : Austria Travel Vlog Ep.95
รวมลิ้งค์ทุกตอน รีวิวเที่ยวยุโรป Season1
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ
หาที่พักที่ bad ischi ไม่เจอค่ะ รบกวนขอลิ้งค์ได้มั้ยคะ
http://bit.ly/gngbooking หาคำว่า Sonnhof ค่ะ
ถามหน่อยค่ะถ้ามีกระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้ว การนั่งบัส 150 จาก Salzburg to St. gilgen ลำบากไหมค่ะ พอดีพักที่ St. Gilgen ค่ะ
ตั๋ว bus 150 ต้องจองล่วงหน้าไหมค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ไม่ลำบากเลยค่ะ แต่อาจต้องยกขึ้นรถแค่นั้นเอง รถใหญ่ โล่งคนไม่ค่อยมี
แต่ขึ้นแล้วต้องคอยจับกระเป๋าดีๆ เพราะรถก็ซึ่งพอควร
Bus 150 ไม่ต้องจองค่ะ ขึ้นจ่ายที่คนขับได้เลย
สามาถเดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสจากเวียนนาไปยัง St. Wolfgang im Salzkammergut ได้มั้ยคะ