เที่ยว Passau ไปเช้า เย็นกลับ
ตอนที่แล้วพวกเรานั่ง รถไฟจาก Nuremberg ไป Regensburg และหลังจากเก็บของที่โรงแรมใน Regensburg เรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าต่อไปยัง Passau เมืองแห่งแม่น้ำสามสี และวันนี้เราจะ เที่ยว Passau แบบไปเช้า เย็นกลับ กันค่ะ
Regensburg – Passau
ยังคงใช้ Bayern ticket ที่ซื้อมาเมื่อเช้าอยู่นะคะ นั่งรถไฟ Agilis (ตัวย่อ ag หรือ as มีสัญลักษณ์เป็นรูปนก) ต่อเดียว จาก Regensburg ชั่วโมงกว่าๆก็ถึง Passau แล้วค่ะ
รู้จัก Passau
Passau เป็นเมืองชายแดนติดกับ Austria และเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่จุดตัดของแม่น้ำสามสาย ที่มาบรรจบกันพอดี
ได้แก่ Danube , Inn และ Ilz
ก็เลยเรียกเมืองนี้ว่า City of three river เมืองแห่งแม่น้ำสามสายนั่นเองค่ะ
เป็นเมืองที่มีนักศึกษาเป็นจำนวนมากเมืองหนึ่ง มากขนาด 10,000คน จากประชากรทั้งหมด 50,000 คน
แปลว่าเห็นเดินผ่านมา 5 คน จะเป็นนักศึกษาซัก 1 คนเลยทีเดียวเชียว
Passau ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ชาวเคลต์ (Celts) ที่มาจากทางตอนเหนือของบาวาเรีย แล้วเข้ายึดพื้นที่แถวนี้ได้สำเร็จ ก่อนสมัย Roman ซะอีกค่ะ
ต่อมา ยุค Roman ก็เลยมาตั้งป้อมไว้บนเนินเขาที่ปัจจุบันเรียกว่า Veste Oberhaus ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมาก
สิ่งที่ทำเงินมหาศาลให้เมือง Passau ก็คือ การค้าเกลือ มีการทำการค้าขายกับชาวโบฮีเมีย หรือในสมัยนี้ก็คือสาธารณเชค โดยแหล่งเกลือก็คือ Salzburg นั่นเอง
(จริงๆเกลือมาจาก Bad Reichenhall ซึ่งอยู่ใกล้ Salzburg มากค่ะ)
สรุปก็คือเป็นเส้นทางค้าขายที่ตี เพราะมีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน สินค้าก็สามารถลำเลียงมาจากทุกแห่งได้
Veste Oberhaus หรือ “Former Castle of Prince-Bishops of Passau”
เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นเมื่อปี1219 เพื่อป้องกันข้าศึกจากออสเตรีย ในสงครามของนโปเลียน
ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่า บริเวณนี้เป็นทำเลที่ดีในการสอดส่องป้องกันภัย เพราะสามารถเห็นแม่น้ำทั้งสามสายที่ไหลมารวมกันอย่างชัดเจน
ที่นี้ยังมีคุกใต้ดิน ที่เอาไว้สำหรับขังคนที่นับถือ Protestant Anabaptists ซึ่งขัดแย้งกับบิชอปด้วย
แต่ภายหลังปี 1822 ก็ใช้เพื่อจำคุกนักโทษการเมือง และนักโทษทางทหารเท่านั้น
ปัจจุบันจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงประวัติศาสตร์ต่างๆ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงกันก็จะมีพิพิธภัณฑ์หลากหลาย เช่น fire fighting, ceramics, crafts, military และ historical displays
การเดินทางไป Veste Oberhaus
นั่งรถ shuttle bus จากหน้า town hall เป็นรถตู้ที่นั่งแสนสบาย (ไม่ใช่คันเล็กๆเหมือนรถตู้ไทยนะ)
รถออกทุก 30 นาที 1.8 ยูโรต่อเที่ยว พวกเราไม่ได้นั่งขึ้นไป แต่ใช้นั่งกลับลงมาค่ะ เพราะขาไปเดินฝั่งตรงข้าม แล้วก็ไม่รู้ในตอนแรกด้วยค่ะ
ทางเดินขึ้นจะอยู่ตรงข้ามกับสะพานที่จะข้ามไป Rathaus ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ระยะทางก็ประมาณ 2-3กม. ไม่ได้วัดอะไรแน่นอน แต่สนุกดี และเหนื่อยพอหอมปากหอมคอค่ะ
จากวันก่อนๆที่ได้ลองไต่เนินขึ้นไปชมวิวแล้ว ทำให้พวกเรารู้สึกว่า พวกเราชอบเดินขึ้นเขาจริงๆค่ะ มันได้อารมณ์ สนุก แล้วรู้สึกว่า พอได้เดินขึ้นไปถึงข้างบน เห็นวิวแล้ว มันเหมือนเป็นรางวัลที่คุ้มค่ามากๆค่ะ
St. Stephen’s Cathedral (Dom St. Stephan)
เป็นโบสถ์ประจำเมือง Passau
ภายในมี organ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (17,974 pipes)
Ogan คือเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง เวลาคนเข้าโบสถ์ก็จะมีการร้องเพลงดีดเปียโน เล่นogan (pipes คือหน่วยของ Ogan)
สำหรับพวกเราตอนดูภายนอกก็ถือว่าใหญ่ปานกลาง และดูเรียบๆนะคะ แต่พอเข้าไปด้านในแล้ว แค่ก้าวแรกก็ต้องร้อง “ว้าววว…” แล้วค่ะ
ทั้งเพดาน ทั้งรูปปั้น ทุกอย่างในนั้น มีรายละเอียดไปหมดเลยค่ะ บรรยายไม่ครบแน่ๆ แต่ที่แน่ๆคือ พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า “สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา” เลยล่ะค่ะ อยากจะบอกว่าสวยที่สุดในทริป 29 วันนี้ก็ได้นะ
ถ้าพลาดล่ะเสียดายแย่
อย่างที่เคยเล่าไว้เมื่อตอนที่แล้วว่า เมืองนี้ไม่ได้อยู่ในรายการเที่ยวของพวกเราตั้งแต่แรก เพราะเห็นว่ามันไกล
อีกอย่างก็อยากพักผ่อนด้วย แต่พอเอาเข้าจริงความโลภมันเข้าครอบงำค่ะ เห็นว่าที่เที่ยวใน Regensburg ไม่ค่อยเยอะ(แต่จริงๆถ้าให้เดินทั้งวันก็ได้แหละ)
ก็เลยหาที่เที่ยวเพิ่ม ดูไปดูมาก็มาพบ Passau นี่แหล่ะค่ะ ติดที่ว่ามันไกลไปหน่อยเท่านั้นเอง
จริงๆถ้าเดินต่อจาก Passau ไปอีกไม่กี่กิโลเมตร ก็จะเข้าเขตประเทศออสเตรียแล้วนะคะ
ถามว่าคุ้มค่ามั้ยกับการไป เที่ยว Passau ครั้งนี้
ตอบได้เร็วๆเลยค่ะว่า “คุ้มมาก” เพราะมันสวยจริงๆ ยังคิดเจ็บใจไม่หายว่า น่าจะได้ค้างด้วย แต่ที่พักค่อนข้างแพงค่ะ
สรุปความประทับใจ
1. วันนั้นฝนตกทั้งวันแบบปรอยๆ พอเดินเที่ยวได้ค่ะ ทำให้ฟ้าค่อนข้างหม่นๆ เดินไปก็หนาวไป แถมยังต้องกางร่มอีก คิดดูว่าถ้าอากาศดี มันจะสวยขนาดไหน
2. ยังมีที่ที่อยากเดินไปอีก แต่เวลาน้อยค่ะ กว่าจะมาถึงก็สิบโมงกว่า ขากลับตอนเย็นก็ฝนตกหนักขึ้นอีก เหลือเวลาเป็นชั่วโมง นั่งกินขนมปัง รอเวลารถออก 4โมงกว่าๆ แต่ได้เที่ยวจริงๆประมาณ 5 ชั่วโมง (ก็เยอะนะ แต่ทำไมรู้สึกว่าน้อยก็ไม่รู้)
3. พิพิธภัณฑ์ไม่สามารถใช้ตั๋ว 14-days ticket ได้นะคะ แต่แค่เดินอย่างเดียวก็ไม่ค่อยมีเวลาแล้ว ถ้าเข้าพิพิธภัณฑ์อีกคงต้องอยู่ซัก 2 วันค่ะ
4. การเดินทางในเมือง จริงๆก็มีบัสนะคะ แต่ไม่ยักกะเห็นซักคัน และรอบรถน้อยมาก ชั่วโมงละคัน แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะเมืองเล็กนิดเดียว มีที่ให้เดินเล่นไปทั่ว จะขึ้นบัสทำไม
5. สุดท้าย จุดที่ต้องไปนอกจากขึ้นเนินชมวิวที่ Oberhaus แล้ว อีกจุดหนึ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาดก็คือ จุดบรรจบของแม่น้ำ 3 สาย และ 3 สี
ตรงนั้นจะเป็นแหลมเล็กๆ เป็นสวนสาธารณะ ตรงนั้นวิวสวยมากค่ะ พาโนรามา
จนคิดว่าน่าจะมีเรือให้ถีบเล่นนะ และอย่าลืมหอบของกินไปนั่งกินเคล้าบรรยากาศตรงนั้นด้วยนะคะ มันสุดยอดจริงๆ
วิดีโอเที่ยว Passau [เที่ยวยุโรป] Travel Passau – Day trip – City Of Three River : Germany Travel Vlog Ep54
แผนที่เส้นทาง เที่ยว Passau
รวมลิ้งค์ทุกตอน รีวิวเที่ยวยุโรป Season1
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ