เช็คอินที่ตู้คิออส ของแอร์เอเซีย

เราสองคนออกจากที่พัก นั่งแท็กซี่แถวปิ่นเกล้า ประมาณ 9.13 น. ถึงสนามบินดอนเมือง 9.44 น.

ใช้เวลาน้อยกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ  ทั้งๆที่แท็กซี่ก็ขับช้ามาก จนแอดมินอดไม่ได้ที่อยากจะรู้ว่าทำไมขับนิ่มจัง (ไม่ได้รีบนะ รู้สึกดีที่ขับช้าแบบนี้)

จนได้คำตอบว่า เขาเคยเป็นนายทหารขับรถให้น้าชาติ  เลยเข้าใจเลยว่า VIP มันเป็นยังไง

คนขับแท็กซี่ยังบอกอีกว่า สมัยนั้น น้าชาติเลือกคนขับรถโดยวิธีทดสอบที่ฉลาดมากคือ น้าชาติจะนั่งจิบไวน์  ถ้าไวน์ไม่กระเฉาะ ไม่สำลัก ไม่หกเลอะเสื้อ เป็นอันว่า”ผ่าน”

ค่าแท็กซี่จริงๆไม่ถึงสองร้อยหรอกค่ะ  แต่ก็ควรทิปส์แท็กซี่ดีๆแบบนี้ค่ะ

พอแท็กซี่มาจอดด้านหน้าทางเข้า ก็จะเจอตู้คิออส (Kiosk) อยู่ด้านนอกค่ะ  แอดมินสงสัยจริงๆว่าทำไมไม่อยู่ด้านใน ข้างนอกมันร้อนรู้มั้ย

---

 

ทำไมต้องเช็คอินผ่านตู้คิออส

ก็เพราะว่าสมัยนี้แอร์เอเซียมีค่าธรรมเนียมการจัดการ ตั้งแต่ 40 บาทขึ้นไป ถ้าใช้บัตรเครดิตก็บวกเพิ่มไปอีก จะให้ทำอะไรเพิ่มก็มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม

แต่ในความเห็นของแอดมินเอง ก็ยุติธรรมดีอยู่แล้วนะคะ  ในเมื่อคิดค่าตั๋วเครื่องบินถูก และเพื่อลดขั้นตอน ลดการใช้แรงงานเจ้าหน้าที่ จริงๆแอดมินว่าเขาเก็บถูกเกินไปด้วยนะคะ  เพราะแถวยังยาวอยู่เลย

 

ในกรณีมีกระเป๋าจะต้องโหลด เช็คอินผ่านตู้คิออสแล้วก็ต้องไปเคาร์เตอร์อยู่ดี?

ใช่ค่ะ  แต่เมื่อเราเช็คอินมาแล้ว พนักงานก็จะลดขั้นตอนต่างๆ เหลือแค่เอากระเป๋าเราชั่ง แล้วก็จบ แค่นั้นเอง รวดเร็วขึ้นเยอะ    ได้ยินผู้บริหารบอกว่า ในอนาคตจะมีจุดไว้ดรอปกระเป๋าโดยไม่ต้องมีพนักงานด้วยนะคะ  คือเราเอากระเป๋ามาวาง ถ้าน้ำหนักไม่เกินก็ผ่านไป

---

ตู้คิออสปริ้นท์อะไรให้เราบ้าง?

ก่อนอื่นเราต้องเตรียมพาสปอร์ต เพื่อแสกนด้วยนะคะ (แต่ที่อื่นไม่เห็นต้องนะ) เมื่อเราทำตามขั้นตอนที่ตู้เขาถามเราเรียบร้อยแล้ว  มันจะปริ้นท์ Boarding Pass และ Tag ติดกระเป๋า(ถ้ามีกระเป๋า) มาให้เราติดที่กระเป๋าเอาเองด้วยนะคะ

แอดมินคิดว่าเราควรทำทุกอย่างด้วยตัวเองให้ได้มากที่สุด อย่าหวังพึ่งบริการอะไรมาก เห็นที่ต่างประเทศขนาดซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตยังมีแบบแสกนเอง เอาถุงมาเอง ใส่เงินในช่อง ทุกอย่างจบด้วยเครื่อง  แอดมินว่ามันสนุกดีนะ

ปริ้นท์ขากลับได้มั้ย

ปกติแอร์เอเซียจะเช็คอินได้ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ ถ้าไม่เกินนี้ก็ปริ้นท์ได้ค่ะ

---

 

เคาร์เตอร์เขาเปิดตลอดเวลามั้ย

โดยทั่วไปเคาร์เตอร์จะเปิดก่อนเครื่องออก 3 ชม. และจะปิดก่อนเครื่องออก 1 ชม.

---

 

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราต้องไป โหลดกระเป๋าที่เคาร์เตอร์ไหน

ที่บอร์ดรวมจะมีประกาศอยู่ค่ะ ว่าจะไปประเทศไหน ต้องไปที่เคาร์เตอร์ไหน  เช่นของแอดมิน เคาร์เตอร์ 2 กับ 3

ทีนี้ที่เคาร์เตอร์ 2 กับ 3 ก็จะมีแยกว่า Check in กับ Baggage Drop Off

ถ้าเคาร์เตอร์ที่เขียนว่า Check in ก็สำหรับคนที่ยังไม่ได้เช็คอินที่ตู้คิออสมา ต้องการให้พนักงานเช็คอินให้ หรือต้องการบริการเสริมอะไร

ส่วนเคาร์เตอร์ที่เขียนว่า Baggage Drop Off  ก็สำหรับคนที่เช็คอินที่ตู้คิออสมาแล้ว แต่มีกระเป๋าที่ต้องโหลด ก็จะเอามาดรอปที่เคาร์เตอร์นี้

แต่ๆๆ….ในความเป็นจริงมักไม่ใช่แบบนี้เสมอไป  เพราะว่า…

เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาแล้ว แล้วเข้าผิดช่อง พนักงานจะไล่ให้ไปต่อคิวแถวที่ถูกต้องก็คงไม่ได้  ดังนั้นก็เลยเห็นเป็นประจำว่า ทำไมแถวดรอปกระเป๋า มันนานจริงๆ

แต่ที่อดสงสัยไม่ได้อีกเรื่องคือ  บางครั้ง ช่อง Baggage Drop Off มันมีไฟนะ แต่ไม่มีคนอยู่  ไปยืนกดดัน ก็ยังไม่มีพนักงานมา แต่ช่อง Check in นี่สิแถวยาวสม่ำเสมอ

แม้ว่าเราจะเช็คอินที่ตู้คิออสมาแล้ว เราก็จำเป็นต้องต่อแถวรอเหมือนเดิมค่ะ

เอาเป็นว่า คงมีการปรับปรุงอยู่เรื่อยๆแหล่ะค่ะ แอดมินไม่คิดมาก รู้สึกสนุกดีทุกขั้นตอน

---

 

ไม่อยากเสียค่าโหลดกระเป๋า เอากระเป๋าขึ้นเครื่องไปกับเราได้มั้ย?

ได้ค่ะ  แต่น้ำหนักต้องไม่เกิน 7 กก.  ขนาดกระเป๋าไม่ใหญ่เกินที่แต่ละที่กำหนด (ไปเช็คกับแต่ละสายการบิน)

โดยปกติ พวกเป้ธรรมดา + กระเป๋าลากไปเกิน 20 นิ้ว ก็ขึ้นได้  โดยรวมๆกันแล้วก็ไม่เกิน 7 กก. นะคะ

แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีชั่งน้ำหนักอะไรก่อนขึ้นเครื่องเลย  แต่ถ้าเขาเห็นว่ามันใหญ่ ดูหนัก ก็อาจห้ามขึ้นได้นะ

ทางที่ดีที่สุดคือ ทำตามระเบียบของเขา  ไม่เอาเปรียบ  สบายใจดีค่ะ  ไม่ต้องมาหวาดระแวง กลัวว่าใครจะว่า

---

 

การทุกอย่างเสร็จแล้ว ต้องทำยังไงต่อ จะรู้ได้ยังไงว่าต้องไปที่ไหนต่อ?

ไปดูที่บอร์ด จะมีประกาศขึ้นอยู่ว่า เที่ยวบินไหน ไปประเทศไหน แล้วต้องไปที่ Gateไหน เราก็แค่ไปตามนั้น

แต่ก่อนที่จะเข้าไปถึง Gate ก็ต้องผ่านเช็คกระเป๋า ค้นร่างกาย ด่านตำรวจตรวจคนออกนอกเมืองก่อน  พอผ่านทุกอยู่เสร็จสิ้นใช้เวลาไม่เกิน 30นาที – 1 ชั่วโมง

จนใกล้ถึงเวลาที่กำหนดใน Boarding Pass (ปกติจะบอกเวลาให้มาที่ Gate ก่อนเครื่องจะออกจริง 1 ชม.)  ก็ไปรอที่ Gate แล้วก็โชว์พาสปอร์ต

ถ้าเดินทางระยะใกล้ เครื่องบินเล็ก ก็ต้องขึ้นบัสไปขึ้นเครื่องบินที่จอดอยู่ไกล๊ไกลอีกที (แต่ไม่เสมอไปนะ)

ถ้าเดินทางระยะไกล เครื่องบินใหญ่ ก็จะมีงวงช้างให้ ดูไฮโซไม่ต้องยืนเหมื่อยเบียดบนรถบัส

---

 

Tips : ตอนผ่านด่านตรวจสิ่งของ ค้นร่างกาย ควรถอดทุกอย่างที่เป็นโลหะ รวมทั้ง สร้อย เครื่องประดับทุกอย่าง(จริงๆก็ไม่ควรใส่นะ) เข็มขัด ปากกาติดเสื้อ นาฬิกา เสื้อคลุม ถอดแล้วใส่กระเป๋าของเราให้หมด อย่างไปใส่ถาด(tray)เดี่ยวๆ เดี๋ยวมันจะหาย ไม่มีใครรับผิดชอบนะ

ล่าสุดเคยถอดเข็มขัดใส่ถาดเดียวกับกระเป๋า ปรากฏว่า เข็มขัดหาย ถามใครก็บอกไม่รู้ โบ้ยไปนู่นนี่

รองเท้าปกติไม่ต้องถอด  แต่ล่าสุดแอดมินใส่รองเท้า Hiking mid boots มันเป็นรองเท้าเดินป่า เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราถอดใส่ถาด เข้าไปแสกนด้วยค่ะ

ที่เมืองไทยดีอย่างนะ ถ้าเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะแล้วมันดัง เขาก็จะเอาเครื่องมาแสกน ไม่ค่อยโดนลูบไล้

แต่ที่ประเทศอื่น (ที่เคยก็ จีน มาเลเซีย ตุรกี) ลูบๆคลำๆซะเสียวเลย  โดยเฉพาะจีนจะลูบขึ้นลูบลงทำไมตั้งหลายรอบ เข้าซอกๆด้วยนะเออ

---

 

อย่าลืม!!! :  ห้ามนำของเหลวผ่านด่านตรวจ  เช่น น้ำ นม เครื่องดื่มทุกชนิด

เคยเห็นคนเอาแยมเข้าไป ก็โดนทิ้งค่ะ

แต่ถามว่าเอาขึ้นเครื่องได้มั้ย ตอบ…ได้ค่ะ ก็ไปซื้อจากด้านในสิคะ

ถ้าไม่อยากซื้อ ที่ดอนเมือง Terminal1 มีเครื่องกดน้ำให้ค่ะ เอาขวดเปล่าเข้าไป แล้วไปกดที่ตู้

ถ้าไปถามแอร์โฮสเตส เขาก็จะบอกว่านำน้ำขึ้นไม่ได้ค่ะ  แต่ในความเป็นจริงคือนำขึ้นได้ค่ะ

ส่วนอาหารอื่นๆ ขนมปัง ข้าวเหนียว หมูปิ้ง และอื่นๆ เตรียมไปกินบนเครื่องได้ค่ะ(ถ้าไม่อยากซื้อ)

---

 

วิดีโอ Air Asia self check-in ที่ตู้ Kiosk – Germany-Austria Travel Vlog Ep1 

 

---

รวมลิ้งค์ทุกตอน รีวิวเที่ยวยุโรป Season1

---

---