เที่ยวยุโรป SS1 D15 เที่ยว Oberammergau

วันนี้เราจะออกจาก Garmisch-Partenkirchen ไปต่อกันที่ Oberammergau ที่เที่ยวหลักคือ Linderhof Palace ปราสาทลินเดอฮอฟ , Ettal Abbey สำนักสงฆ์เอททาล ตั้งใจจะเดินเล่นตัวเมืองเก่าโอเบอร์อัมเมอร์เกาด้วย จากนั้นก็ค้างคืนกันที่นี่ 1 คืนค่ะ

---

การเดินทางไป Oberammergau

 

พวกเราจะเดินทางจาก Garmisch-Partenkirchen ไป Oberammergau ซึ่งมี 2 วิธีคือ

วิธีที่1 รถไฟ

ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที

ราคาคนละ 10.2 ยูโร

อ้อมไกล ไม่แนะนำค่ะ

 

วิธีที่2 บัส 9606

ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

ราคาคนละ 5.3 ยูโร

พวกเราเลือกใช้บัสค่ะ แนะนำใช้วิธีนี้

---

 

RVO bus day ticket

ตั๋ววันทางเลือกสำหรับการเดินทางด้วยบัสในเขต Oberbayern (ยกเว้นมิวนิค) ชื่อว่า RVO bus day ticket ราคา 9.8 ยูโร

แนะนำให้ใช้สำหรับคนที่ไม่ได้พักที่เมืองนี้ค่ะ เช่น พัก Fussen หรือ พัก Garmisch  ใช้ไปกลับก็คุ้มแล้วค่ะ ไม่ต้องใช้ Bayern ticket นะคะ…เปลือง

---

 

ทำไมแอดมินไม่ซื้อตั๋ววันล่ะ

สำหรับพวกเราไม่ได้ซื้อตั๋ววันค่ะ  เพราะเราจะไปพักที่ Oberammergau อยู่แล้ว ราคาบัสแบบเที่ยวเดียว คนละ 5.3 ยูโร

และที่สำคัญ ที่โรงแรม เขามี Guest card ใช้ขึ้นบัสฟรีอยู่แล้วค่ะ  พอไปถึงโรงแรมก็ ได้ guest card มาแล้วก็ไม่ต้องเสียค่ารถอะไรอีก เสียเฉพาะตอนไปถึงค่ะ

 

มาถึง Oberammergau แล้วค่ะ รถบัสก็มาแวะป้ายตรงกลาง แล้วรถมันก็จะไปต่อที่ Fussen เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ต้องมาขึ้นตรงนี้ค่ะ

หลังจากกเข้าเก็บกระเป๋าที่โรงแรม เอิ่ม…จริงๆเป็นที่พักแบบบ้านคนท้องถิ่นต่างหากล่ะคะ อารมณ์เหมือนไปอยู่บ้านญาติน่ะค่ะ  แต่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ (คือเราก็ไม่ค่อยได้ไง) เลยกว่าจะรู้เรื่อง กว่าจะได้ Guest card ก็นานหน่อยค่ะ

และหลังจากพักผ่อน ได้บัตรเบ่งมาแล้วก็ค่อยออกเดินทางไปปราสาทลินเดอร์ฮอฟ พระราชวังที่พระเจ้าลุดวิกใช้เวลาอยู่ด้วยนานที่สุดค่ะ

วิธีไป Linderhof palace ก็แค่มาขึ้นรถบัสสาย 9622 ที่ป้ายทางขวาค่ะ

---

 

เที่ยว Linderhof palace

นั่งรถไม่นานก็มาถึงแล้วค่ะพระราชวังลินเดอร์ฮอฟ

2 วัง 1 ปราสาท ในคอลเล็คชั่นของพระเจ้าลุดวิกที่2

เป็นพระราชวังหนึ่งในคอลเล็คชั่นที่โด่งดังสามแห่งคือ Linderhof , Neuschwanstein , Herrenchiemsee

แต่ Linderhof เป็นวังแห่งเดียว ที่สร้างเสร็จตามแปลนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเลียนแบบบางส่วนมาจากพระราชวังแวร์ซาย

Neuschwanstein เหมือนจะสร้างเสร็จนะคะ แต่จริงๆแล้ว ในแปลนดั้งเดิมยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้สร้าง

Herrenchiemsee สร้างได้แค่ไม่ถึงครึ่งของแปลนเลย เงินหมดซะก่อน

 

 

 

---

 

วัง กับ ปราสาท ต่างกันยังไง

เคยสงสัยมััยคะว่า วัง กับปราสาท ต่างกันอย่างไร

วัง เป็นที่อยู่อันหรูหรา สวยงาม ไม่เกี่ยวกับการป้องกันศัตรู

ปราสาท เป็นฐานที่มั่นในยุคกลาง ประมาณศตวรรษที่ 9-10 สร้างอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันศัตรู มีป้อม มีกำแพง มีกองกำลัง

แต่ปราสาท Neuschwanstein ไม่ได้สร้างเพื่อป้องกันศัตรูนะคะ แต่สร้างเพื่อความสวยงาม เพราะในยุคหลังๆเขาสร้างเพราะความสวยงาม ไม่ได้เพื่อสู้รบ หรือป้องกันเมือง  เขาจะเรียกวัง หรือ ปราสาทก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของสถาปัตยกรรมนั้นๆด้วยค่ะ

---

 

เรียงลำดับปีที่สร้าง

Linderhof สร้างปี1867 เสร็จปี 1878 เข้าไปอยู่บ่อยครั้ง

Neuschwanstein สร้างปี 1869 ยังไม่สมบูรณ์ แต่เข้าไปอยู่แล้ว

Herrenchiemsee  สร้างปี 1878 ยังไม่สมบูรณ์ แต่เข้าไปอยู่ไม่กี่วัน

---

King Ludwig II เกิด 1845 เสียชีวิต 1886

 

---

 

Linderhof palace

การเข้าชม จะเป็นรอบๆตามภาษาค่ะ  จะมีไกด์นำพาทัวร์ แต่จะมีเอกสารแจกให้อ่านด้วย

เอกสารมีภาษาไทยด้วยนะ แต่ไกด์เป็นภาษาอังกฤษ

ไกด์พูดเร็ว และแอคติ้งสุดยอดมาก บิ้วท์อารมณ์แบบมีเสียงสูง เสียงต่ำ ชวนให้ตื่นเต้นมากค่ะ

แต่บอกตามตรงคือ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง มัวแต่ฟังเสียงสูง เสียงต่ำอยู่

20 นาทีของการเข้าชม รู้สึกเหมือน 10 นาทีค่ะ เพราะเรายังไม่ทันดูอะไร แค่ฟัง จับใจความ และอ่าน แค่บันทัดเดียว เขาให้เปลี่ยนห้องแล้วค่ะ ฟังไปฟังมา ไกด์เปิดประตูเล็กๆ ให้เข้าไป อ้าว…จบแล้วหรอ เจอขายของที่ระลึกซะแล้ว

 

---

 

คุ้มมั้ย

ถ้าให้พูดกันตามตรงนะคะ สำหรับค่าเข้า 8.5 ยูโร ถือว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ค่ะ แต่ภายในสวยจริงๆค่ะ ห้องออกแนวเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตอลังการ เหมือนบ้านรูหนูของเศรษฐี แต่การตกแต่งรายละเอียดต้องยอมรับเลยค่ะ สวยมาก

พวกเราใช้ 14-days ticket เข้าฟรีอยู่แล้ว ก็ไม่ได้เสียดายอะไรค่ะ  แต่ถ้าเสียค่าเข้า คงแอบเสียดายหน่อยๆ

---

 

 

 

 

สิ่งก่อสร้างอื่นๆในเขตสวน

Venus Grotto  

เป็นถ้ำที่สร้างขึ้นมา ไม่ใช่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีไว้เป็นที่แสดงโอเปร่า 

อันนี้แอดมินว่าคนคิดนี่สุดยอดหัวครีเอทีฟเลยล่ะค่ะ  ปกติเค้าจะสร้างโรงละครใหญ่ๆ สวยๆ มีที่นั่งดีๆ แต่นี่ เป็นถ้ำเล็กๆ มีเรือ มีแอ่งน้ำเล็กๆ มีเวที สงสัยอยู่อย่างเดียว คนนั่งต้องนั่งตรงไหน

ที่นี่เข้ามาแบบงงๆค่ะ เพราะนึกว่าเป็น Guide tour เห็นมีให้เข้าเป็นรอบๆ แต่พอถึงเวลา เข้าไปก็ไม่ได้มีไกด์อะไรนะคะ แต่เป็นเสียงบรรยายในถ้ำ ที่เป็นภาษาเยอรมัน

ภายในสวยค่ะ ยังนึกว่ามาดิสนี่ย์แลนด์  มีแสดง แสง สี เสียง (แต่แป๊บเดียวนะ 555+) แต่มีน้อยมากค่ะ เดินยังไม่ถึง 5 นาที ก็หมดแล้วค่ะ (ก็ถ้ำเล็กแค่นั้นเองอ่ะ)

---

 

Moorish Kiosk

ไม่รู้จะเรียกว่า ห้อง หรือ ซุ้ม หรืออะไรดีค่ะ เรียก Kiosk ละกัน เป็น Kiosk สไตล์แขกมัวร์ ของดั้งเดิมเคยไปแสดงในงาน World Exhibition ที่ฝรั่งเศส

อีกสิบปีต่อมา King Ludwig II ก็ลงทุนไปซื้อ Kiosk นี้มา แล้วเอามาปรับปรุง ใช้เป็นที่นั่งดื่ม นั่งสูบ แต่งตัว

Kiosk ตั้งอยู่กลางสวน เดินตั้งไกลจากพระราชวัง แต่สวยมากๆค่ะ  ทั้งภายใน และภายนอก เสียดายที่เปิดเฉพาะ summer (แอบมองเข้าไปด้านในได้นะ)

---

 

Linderhof Palace Park

ภายในบริเวณสวนอันกว้างใหญ่นี้ ก็จะมีบ้าน กระท่อม และสิ่งก่อสร้างเล็กๆน้อยๆ ที่สร้างเองบ้าง ซื้อมาทั้งดุ้นบ้าง อีกมากมายตั้งอยู่ห่างๆกันน ใช้เป็นที่พักผ่าน เสพศิลปะ ดูโอเปร่า เป็นเวทีการแสดง อารมณ์ศิลปินมากอ่ะ

 

เที่ยว Ettal Abbey

หลังจากเที่ยว Linderhof palace จบแล้ว พวกเรานั่งรถบัสสายเดิม 9622 มาที่ Ettal Abbey  เป็นโบสถ์และสำนักสงฆ์ที่โด่งดังและใหญ่มากค่ะ

---

 

Ettal Abbey หรือภาษาเยอรมันเรียก Kloster Ettal เป็นสำนักสงฆ์ หรืออาราม ของคณะนักบุญเบเนดิกต์

นักบวชคาทอลิกจะอยู่รวมกันในอาราม ที่เรียกว่า Abbey หรือ Piory

Ettal Abbey ก่อตั้งขึ้นปี 1330 แต่เสร็จสมบูรณ์ปี 1370  ในสไตล์กอทิก

เป็นอารามที่สร้างขึ้นตามคำปฏิญาณ ของจักรพรรดิลุดวิกที่4 หลังกลับจากอิตาลี โดยตำนานเล่าว่า ม้าของพระองค์ผงกหัวสามทีตรงจุดนี้ ก็เลยสร้างโบสถ์ตรงนี้เลยค่ะ

---

 

Ettal Abbey มีอะไรน่าสนใจ

พูดกันตามตรงค่ะ ที่พวกเราอยากมาที่นี่ เพราะเห็นว่าไหนๆก็อยู่ใกล้ๆแล้ว ก็อยากมาแวะซักหน่อย

แล้วก็มาไม่ยากด้วย แค่นั่งรถบัสสาย 9622 สายเดียวกับที่ไป Linderhof

เรื่องรถบัสต้องดูเวลา และปลายสายให้ชัวร์นะคะ เพราะบางคนมันก็วิ่งวนไป Linderhof ก่อน แล้วก็วนมา Ettal สรุป ไม่ยากหรอกค่ะ แค่ดูตารางเวลา และหัวรถว่าเขียนตรงมั้ย

ที่นี่พวกเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่ามีอะไรน่าสนใจ มาก็เพราะคนอื่นเขามา แต่ถ้าถามว่ามีอะไร ก็ตอบเลย “มีโบสถ์” ใหญ่มาก

ที่บอกว่าใหญ่มากคือ ข้างนอกดูใหญ่มาก แต่ด้านในตัวโบสถ์ ไม่ใหญ่ค่ะ เพราะส่วนใหญ่เป็นที่พักของพระ เรื่องสวยก็คงไม่ต้องย้ำหรอกค่ะ  ยังไม่เคยเห็นโบสถ์ไหนไม่สวยเลย

บริเวณพื้นที่รอบๆกว้างขวาง แต่ไม่มีอะไรที่รั้งให้เราอยู่ได้นานๆซักเท่าไหร่ ถ้าจะมาก็มาถ่ายรูป วิวโบสถ์สวยมากนะคะ แล้วก็กลับ แค่นั้นเองค่ะ

แต่รอบรถบัสจะน้อยมากนะคะ อย่าลืมจดเวลาให้ดี พลาดรอบนึงอาจต้องรอเป็นชั่วโมง หรือ2ชั่วโมงนะ

อย่างไรก็ตาม อย่าเชื่อแอดมินมากนะคะ เพราะตอนนั้นหิมะตกหนักมาก พวกเราหนาวจนไม่อยากออกไปเดินที่ไหน หลบแต่ในโบสถ์ เดินไปสำรวจรอบๆแบบรีบๆ ถ้าไม่ลำบากก็ไปดูกันค่ะ จะได้ไม่เสียเที่ยว  แต่ถ้าเวลาน้อย ก็ไม่ต้องค่ะ

---

 

วิธีไป Ettal Abbey

ลงบัสป้ายชื่อ Klostergasthof

จาก Garmisch-Partenkirchen : ขึ้น Bus 9606 ราคา 5.3 ยูโร

จาก Oberammergau : ขึ้น Bus 9622 ราคา 2 ยูโร (ประมาณ)

จาก Linderhof : ขึ้น Bus 9622 ราคา 2 ยูโร (ประมาณ)

สำหรับคนที่พัก Oberammergau สามารถขอ Guest card ใช้ขึ้นบัสฟรี ไป Linderhof และ Ettal Abbey ฟรี

แนะนำเฉพาะคนที่พักใกล้ๆแถวนี้นะคะ เช่น Oberammergau หรือ  Garmisch-Partenkirchen พักไกลๆไม่ค่อยคุ้มเวลาค่ะ

---

 

จบจาก Ettal Abbey พวกเราก็กลับไป Oberammergau ทีแรกกะว่าจะพักผ่อนซักพัก  แต่หิมะกลับตกหนักลงมาแบบไม่มีทีท่าจะหยุด ก็เลยต้องพักยาว ไม่ได้ออกไปเดินเล่นในเมืองเลยค่ะ

---

 

สรุปความประทับใจ

1. โดยรวมแล้ว ประทับใจวิวระหว่างทางมากค่ะ

2. วังลินเดอร์ฮอฟก็สวยนะ แต่เล็กนิดเดียว เดินแป๊บเดียวหมด ไกด์ก็พูดเร็ว พาเดินเร็ว ดูอะไรไม่ได้มาก

3. พื้นที่สวนมีอะไรให้ดูเยอะดี มีที่เดินเยอะ ถ้าชอบเดินสวน อาจเดินได้ทั้งวัน

4. Ettal Abbey ใหญ่โต แต่เข้าได้เฉพาะโบสถ์เล็กๆ  เดินดูในสวนนิดหน่อย คงเป็นได้แค่ side trip ค่ะ

5. ตัวเมือง Oberammergau ไม่ได้เดินค่ะ บอกไม่ได้  แต่เสียดายมากๆ

6. ที่สถานีรถไฟ Oberammergau มีซุปเปอร์มาร์เก็ต3 ที่ติดๆกันเลย ไม่ต้องกลัวอด แต่วันอาทิตย์ปิดนะ

7. สรุปว่า ก็น่ามาเที่ยวอยู่นะ แต่ถ้ามีเวลาน้อยมาก ก็คงไม่ใช่ไฮไลท์ซักเท่าไหร่ค่ะ

8. พักที่ Pension Haus Karin Oberammergau

---

 

สรุปตั๋วที่ใช้เที่ยว Oberagmmergau

–  ใช้ guest card จากที่พักที่ Garmisch ไป สถานีรถไฟ

–  ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวบัส 5.3 ยูโร จาก Garmisch มา Oberammergau

–  ใช้ guest card ขึ้นบัสฟรี จาก Oberagmmergau –> Linderhof –> Ettal Abbey –> Oberagmmergau

–  ใช้ 14-days ticket เข้าวังลินเดอร์ฮอฟฟรี

 

---