เที่ยวยุโรป Season1 Day18 เที่ยว Konigssee
การเดินทางไป Lake Konigssee
ขึ้น Bus 841 จาก Berchtesgaden Hbf ลงป้าย Konigssee นับไป 8 ป้าย (ใช้เวลา 10 นาที มีชั่วโมงละรอบ)
แต่ไม่ต้องห่วงนะ บนรถจะมีจอบอกสถานีถัดไป และคนส่วนใหญ่ก็จะลงป้าย Konigssee อยู่แล้ว
โปรแกรมเดินเรือ Lake Konigssee
แบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ
Königssee (Seelände) – St. Bartholomew
ใช้เวลาไป 35 นาที
ราคาไป-กลับ 14.5 ยูโร (2016)
เรือจะมีตลอดทั้งปีนะคะ ยกเว้นวันที่น้ำในทะเลสาบแข็งจนเรือวิ่งไม่ได้
(อันนี้ต้องลองเสี่ยงดวงดูนะคะ ถ้าไปหน้าหนาวมากๆ)
แต่ที่น่าจะหยุดแน่ๆก็คือ Christmas Eve 24 Dec
เส้นทางนี้จะมีการเป่า trumpet โชว์การสะท้อนของเสียงแบบ echo
เตรียมการจับจองพื้นที่ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอกันให้ดี ไม่งั้นจะมีคนแย่งตำแหน่งดีๆไปก่อนนะ
Königssee (Seelände)- St. Bartholomew – Salet
ใช้เวลา 10-15 นาที
ราคาไป-กลับ 17.5 ยูโร (2016)
เรือจะแวะ St. Bartholomew ก่อน แต่เราจะไม่ลงก็ได้ แล้วก็นั่งต่อไป Salet เลย
แล้วตอนขากลับค่อยแวะ St. Bartholomew ก็ได้
แต่เส้นทางไป Salet จะมีเฉพาะฤดูร้อน กลางเมษายน ถึง กลางตุลาคม เท่านั้น
ตารางเวลาเดินเรือ Lake Konigssee
เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี ก็เลยอยากให้ดูแบบอัพเดทที่ http://www.seenschifffahrt.de/en/koenigssee/timetable/timetable/
ตารางเวลานี่สำคัญนะคะ มันช่วยให้เราวางแผน จัดการเวลาได้ดีมาก
Audio guide Lake Konigssee
ต้องโหลดแอพพลิเคชั่น “Königssee Shipping” ที่เคาร์เตอร์ขายตั๋วจะมีสัญญาณ wi-fi ให้ดาวน์โหลดด้วยนะคะตอนขึ้นบนเรือ มันก็จะขึ้นเสียงมาอัตโนมัติ หรือถ้าไม่ขึ้นก็กดเลือกก็ได้ค่ะ
แต่แนะนำให้ดาวน์โหลดไฟล์ Mp3 จากที่บ้าน หรือที่โรงแรม เก็บไว้ในมือถือก่อน พอขึ้นเรือก็จะได้เปิดฟังได้เลย ไม่ต้องรอโหลด สะดวกกว่าเยอะ
อย่าลืมเอาหูฟังไปด้วยนะคะ เพราะถ้าเปิดลำโพงจะรบกวนคนอื่น แล้วก็ฟังไม่ชัดด้วย
ดาวน์โหลด Audio guide Lake Konigssee Mp3
(01) Christlieger island and the boat houses
(02) Malerwinkel bay and Falkenstein precipice
(03) Nasser Palfen (Wet Rock) and Echowand (Echo Cliff)
(04) Kessel with Watzmann and Eiskapelle (ice chapel)
(06) On the St. Bartholome peninsula
ไปทำอะไรที่ Lake Konigssee
จริงๆมีเส้นทางเดินหลายทางมากนะคะ แต่ล้วนแล้วแต่ไกลๆ ใช้เวลาเป็นชั่วโมงทั้งนั้น แต่เส้นทางที่คนส่วนใหญ่เดิน และใช้เวลาไม่นานก็คือ
ท่าเรือ St. Bartholomew
ลงเรือปุ๊บ ก็เดินไปโบสถ์ St. Bartholomew เดินชมระแวกนั้นใกล้ๆ แล้วรอขึ้นเรือรอบถัดไป ใช้เวลา 20-40 นาที
สำหรับเรือรอบถัดไปก็ไม่ค่อยแน่นอน แต่มาค่อนข้างบ่อย ประมาณทุก 30 นาที
ท่าเรือ Salet
จะเดินไกลหน่อยนะคะ ส่วนใหญ่จะเดินไปจุดชมน้ำตก Rothbach waterfall
“Rothbach waterfall เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนี”
จุดชมวิวจะอยู่แค่กลางทาง จะเห็นน้ำตกไกลๆเท่านั้นนะ ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที
แต่ถ้าอยากจะไปให้ถึงตัวน้ำตกระยะเผาขนจริงๆ ก็ต้องเดินต่อประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
ฟังๆดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากใช่มั้ยคะ
แต่จริงๆแล้วที่ Konigssee โด่งดัง ก็เพราะว่า “มันสวยมากๆค่ะ”
ตามมาดูกันค่ะ
แต่พวกเราเดินได้ประมาณ 30 นาที ก็ต้องไปแล้วค่ะ พายุหิมะแรงมาก กลับมาขึ้นเรือที่ท่าเรือ
พอลงจากเรือแล้ว จะเห็นบ้านหลังนี้ทันทีค่ะ ในนั้นมีห้องน้ำ สะอาดๆด้วยค่ะ
มาถึงจุดบ้านไม้หลังนี้ (จริงๆเป็นนโรงเก็บเรือ) ก็คือเป็นทะเลสาบ Obersee แล้วนะคะ ถ้าอากาศดีๆจะมองเห็นฝั่งตรงข้าม บางคนก็เดินไปถึงฝั่งตรงข้ามได้เลย เป็นจุดชมน้ำตก(ในระยะไกลๆ) แต่ถ้าจะให้เห็นน้ำตกระยะเผาขน น้ำกระเซ็นโดนเลยก็เดินกันเป็นชั่วโมง่จากนับจากท่าเรือ
Konigssee ท่ามกลางหิมะ
พวกเราไม่เห็นน้ำตกเลยค่ะ อย่าว่าแต่น้ำตกเลย ทางข้างหน้า 10 เมตรยังแทบไม่เห็น เพราะหิมะตกหนักมาก รอบๆมีแต่หิมะปกคลุม
ครั้นจะเดินไปให้ถึงตัวน้ำตกเลยก็กลัวจะใช้เวลาเยอะ เพราะถ้าไปกลับก็ไม่ต่ำกว่า 2 ชม.แน่ๆ แถมมันก็หนาวมาก พวกเรายังต้องเก็บแรงไว้อีกหลายวัน ก็เลยไม่ได้เห็นเป็นบุญตาเลยค่ะ
ก็เลยอยากบอกเพื่อนๆว่า ให้ลองชั่งใจดูให้ดีว่า ถ้าเราอยากเห็นบรรยากาศที่สวยสมบูรณ์แบบจริงๆ
ก็ให้มาช่วงหน้าร้อนจริงๆประมาณ พ.ค. – ก.ย. พวกเราไป 26 เมษายน ไม่คิดว่าจะมีหิมะ แต่ก็มี แถมมาเยอะซะด้วย “งงเลย”
เดินกลับมาที่ท่าเรือแบบรวดเดียว ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขากลับหิมะหยุดตก ท้องฟ้าเริ่มสว่าง แหม…พอเรากลับปุ๊บ อากาศดีขึ้นมาเชียว
เห็นเขียนว่าเรือรอบสุดท้ายที่ Salet คือ 17.00 น. นะคะ
กลับถึง Konigssee อากาศใสแจ๋ว หิมะหยุดสนิท มันน่าเจ็บใจนักเชียว
สรุปความประทับใจสำหรับ Konigssee
เป็นสถานที่ที่พวกเราคาดหวังสุดๆที่หนึ่ง ไปจริงก็สวยจริงๆนะคะ แต่อย่างที่บอกว่าหิมะตกหนัก หนาวก็หนาว มองไม่ค่อยเห็นอะไรในระยะไกลๆ ทำให้ค่าเรือที่จ่ายไปคนละ 17.5 ยูโร รู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
ถ้าจะไป น่าจะไปช่วงหน้าร้อน คือเอาแบบร้อนจริงๆนะ หรือใบไม้เปลี่ยนสีน่ะค่ะ (พ.ค. – ต.ค.)
และควรเผื่อเวลาทริปนี้อย่างน้อยๆ 3-4 ชม.
อย่าลืม
เช็คตารางเวลา หรือถามคนเดินเรือให้แน่ใจว่า เรือรอบสุดท้ายกี่โมง หรือเรือจะมาอีกทีเมื่อไหร่
เพราะที่นั่นไม่มีที่พัก และไม่มีทางเดินกลับนะคะ เรือหมดคือนอนศาลานะคะ
เอาของกินไปด้วย มีขายบ้าง แต่น้อยมาก เป็นพวกคาเฟ่ ร้านอาหาร แพงๆ ไม่มีร้านสะดวกซื้อนะ
กลับเข้าเมือง Berchtesgaden
หลังจากเที่ยวทะเลสาบ Konigssee จบ พวกเราก็นั่งบัส สาย841 สายเดิม อย่าลืมว่าตอนขามาถึง ต้องดูรอบรถขากลับเอาไว้ก่อนเลย ถ่ายรูปไว้ เราจะได้ไม่เสียเวลามารอรถ เพราะรอบรถมันไม่เยอะนะคะ
นั่งบัสไม่นานค่ะ ประมาณ 15-20 นาที ก็กลับมาถึงสถานีรถไฟ Berchtesgaden ประมาณ บ่าย 3 โมง
แต่วันนี้เราจะไม่ค้างที่ Berchtesgaden นะคะ พวกเราจะไปค้างกันที่ Salburg
แต่ในเมื่อยังมีเวลาเหลือนิดหน่อย ก่อนจะไป Salzburg ก็ขอใช้เวลาให้คุ้ม ไปเดินย่านเมืองเก่ากันดีกว่า
ถ้าให้เลือกใหม่ก็คงขอค้าง Berchtesgaden ต่อดีกว่า แล้วตอนเช้าค่อยไป Salzburg เพราะได้ห้องที่ดี มีอาหารเช้าเยี่ยม แถมยังราคาถูกกว่าที่ Salzburg อีกด้วย
การเดินทางไป Berchtesgaden old town
1. นั่งบัส
สามารถขึ้นบัสสาย 837 จาก Hbf ในราคา 1 ยูโร เท่านั้นนะคะ
ถ้าใครมี Guest card ก็ใช้ขึ้นบัสฟรีได้ด้วยนะ
แต่มีประมาณแค่ชั่วโมงละ 1 คันเท่านั้น พวกเราก็เลยขี้เกียจรอ เลยหาทางเดินไปเองซะเลย …บ้าพลัง!!!
2. เดินไป
เมืองเก่ามันจะอยู่บนเนินเหนือสถานีรถไฟขึ้นไป ถ้าดูจากแผนที่มันก็เหมือนจะใกล้นะคะ แต่มันต้องเดินขึ้นเนินนี่น่ะสิ มันเลยเหนื่อยกว่าปกติ
สำหรับทางเดินไปไม่รู้คนปกติ เขาเดินไปกันยังไงนะ แต่พวกเราเดินข้ามรางรถไฟไป แล้วมันจะมีบันไดให้เดินขึ้นไป แล้วก็เดินๆๆๆๆไปทางตะวันออกเฉียงเหนือไปเรื่อยๆ
Berchtesgaden Royal Castle
ตอนแรกนึกว่าเมืองนี้ไม่มีเมืองเก่าซะอีกนะ นึกว่าเป็นเมืองที่พักตากอากาศเฉยๆ แต่จริงๆ Berchtesgaden ก็มีมาตั้งแต่โบราณแล้วนะคะ ประมาณศตวรรษที่11-12 ก็ตั้งเป็นเมืองแล้ว
ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เป็นเมืองอิสระ แต่ยุคหลังๆได้เข้าร่วมกับรัฐบาวาเรีย โดยตระกูล Wittelsbach เป็นผู้นำ ปราสาทหลังนี้ก็เป็นที่พักตากอากาศที่หนึ่งของตระกูลค่ะ
ปราสาทจะอยู่ในย่านเมืองเก่า ใกล้ๆ Rathaus ภาษาเยอรมันจะเรียกว่า Königliches Schloss ภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Royal Castle
ปัจจุบันก็ยังคงเป็นของตระกูล Wittelsbach แต่จะเปิดห้องหลักให้เข้าชมได้เป็นพิพิธภัณฑ์มีค่าเข้า 9.5 ยูโร
ไม่สามารถใช้ 14-days ticket ได้ เพราะเป็นของเอกชน ไม่ใช่ของรัฐบาวาเรีย
(เหมือนกับที่ Hohenschwangau ก็ใช้ 14-days ticket ไม่ได้เหมือนกัน)
ตอนยุคฮิตเลอร์ พระเจ้าลุดวิกที่3 ก็ยังต้องระเห็ดมาหลบอยู่ที่ปราสาทนี้เลย แต่ก็ต้องลี้ภัยไปสวิตเซอร์แลนด์อยู่ดี
(จริงๆดูเหมือนวังมากกว่าปราสาทนะ)
พอหลังสงครามปราสาทนี้ก็ยังคงเป็นของตระกูล Wittelsbach เหมือนเดิม
ที่ Royal castle พวกเราไม่ได้เข้าชมด้านในนะคะ
ตอนเดินเข้าไปก็หาทางเข้าที่ซื้อตั๋วไม่เจอด้วยค่ะ ประตูล็อคหมดเลย
ที่เข้าได้ฟรีก็คือโบสถ์ St. Peter and St. John the Baptist ยอดแหลมสองยอดเป็นจุดเด่นมากค่ะ
ที่เที่ยวอื่นใน Berchtesgaden
– Eagle’s nest ที่นี่เป็นที่กบดานของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บนเขาที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมาก เพราะมองเห็นได้รอบด้าน ใครมา ใครไป ก็เห็นหมด จะมาบุกก็ลำบาก ที่สำคัญคือวิวสวยมาก
Eagle’s nest เป็นที่เที่ยวที่โด่งดังอีกที่หนึ่ง แต่พวกเราไม่ได้เลือกไปเพราะว่า…
ราคาทัวร์ประมาณ 24 ยูโร (ต้องจองล่วงหน้า)
นั่งบัสไปประมาณ 2 ชม.
ต้องไปทัวร์เท่านั้น ออกเป็นเวลา วันละครั้ง ออกแนวเชิงประวัติศาสตร์
ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน
คนที่รีวิวใน Tripadvisor บางคนบอกว่า สถานที่อย่าคาดหวังมาก แต่ที่น่าสนใจคือวิว
เห็นมั้ยคะเราจะเอาเวลาที่ไหนไป แค่ทะเลสาบ Konigssee อย่างเดียวก็จะหมดวันแล้ว
แถมค่าทัวร์ยังสูง ดูแล้วไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ แต่ถ้าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสก็ไม่แน่ค่ะ
สรุปความประทับใจสำหรับตัวเมืองเก่า Berchtesgaden
เมืองเก่าที่ Berchtesgaden ก็สวยระดับหนึ่งค่ะ แต่ไม่ถึงขั้น “ร้องว้าว” ออกแนวสงบๆ ต่างจังหวัด เล็กๆ ใช้เวลาเดินรอบๆไม่นานค่ะ 1 ชม. ก็น่าจะครบหมดแล้ว ถ้ามีเวลาก็มาเดินให้รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆก็ไม่ต้องเสียดายค่ะ
ไปต่อกันที่ Salzburg
จบทุกอย่างแล้ว พวกเราก็รีบไปต่อกันที่ Salzburg ทันทีค่ะ กว่าจะถึงก็เย็นมากๆแล้ว ไปไหนต่อไม่ได้แล้วค่ะ
วิธีเดินทางจาก Berchtesgaden ไป Salzburg ก็นั่งบัสสาย 840 มีรถชั่วโมงละคัน ใช้เวลา 50 นาที
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ