เที่ยวยุโรป Season1 Day25 เที่ยว Bratislava

แม้ว่าเมื่อคืนจะเป็นการค้างเวียนนาคืนแรก แต่รุ่งขึ้นนี้พวกเราเลือกไป Bratislava เมืองหลวงของประเทศ Slovakia ก่อนค่ะ เป็นการเดินทางไปเช้าเย็นกลับ และค้างเวียนนาค่ะ

เหตุก็เพราะพยากรณ์อากาศบอกว่าเวียนนาจะฝนตกหนัก แต่บราติสลาวาตกเบากว่า (ไม่ใช่ไม่ตกนะ แค่ตกเบากว่า 55+)

---

 

 

 

การเดินทางไป Bratislava ด้วย Flixbus

การเดินทางจากเวียนนาไปบราติสลาวา เป็นทางเลือกที่ดี สะดวก และถูกที่สุดก็คือ Flixbus นั่นเองค่ะ

1.  Flixbus จอดที่ป้ายรถบัสใหญ่ ที่อยู่ติดแม่น้ำดานูบ  อยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ติดกับ Old town ที่สุด

ถ้าไปโดยรถไฟ ซึ่งอยู่ด้านบน ไกลจาก Old town พอประมาณ เราจะต้องเดินลงมาอีกกว่าจะถึง

2.  การเดินทางไป Devin Castle ก็สามารถขึ้นบัสที่เดียวกันได้เลย ไม่ต้องเดินไปไหนอีก

3.  ถูกที่สุดในราคาแค่ 5 ยูโร แต่ต้องเลือกเวลาเช้าๆ และดึกๆหน่อยนะ

สำหรับพวกเราเลือกเวลากลางๆ ก็เลยได้ 7.5 ยูโร ซึ่งก็ไม่น่าเกลียดอะไร

Flixbus มาถึงบราติสลาวา ก็จะมาจอดส่ง และรับเราที่ป้าย Most SNP  แต่บางที่อาจเขียนว่า Novy Most ซึ่งแปลว่า New Bridge

 

 

 

 

 

---

 

Bratislava เป็นเมืองหลวงติดชายแดน

Bratislava น่าจะเป็นเมืองหลวงเดียวของโลก ที่กล้าอยู่ติดชายแดนประเทศ (เท่าที่ค้นข้อมูล และดูจากแผนที่นะ) ไม่เชื่อลองไปดูแผนที่โลกได้ค่ะ  ขอบเขตของเมืองหลวง อยู่ติดออสเตรียแค่ข้ามฝั่งแม่น้ำเท่านั้น

ส่วนของเมืองพวกที่พักอาศัย old town ก็ห่างจากชายแดนเวียนนา แค่นั่งรถ 20 นาทีเท่านั้น ถ้าเราอาศัยอยู่ใน Bratislava ก็สามารถนั่งรถไปทำงานในเวียนนาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น (นี่มันเร็วกว่าจากบางนา ไป พุทธมลฑลอีกนะ)

ไม่ใช่ติดแค่ประเทศเดียวนะ แต่ติดฮังการีด้วยค่ะ

---

 

แล้วจะตกใจทำไม ก็แค่ติดประเทศอื่น มันจะไปแปลกตรงไหน

คือถ้าเป็นสมัยก่อน ที่ยังรบแย่งชิงพื้นที่กันอยู่ ถือว่าประเทศนี้ล่อแหลม เสี่ยงต่อการสูญเสียอธิปไตยแน่ๆ นึกถึงบ้านไหนมีลูกสาวสวย แล้วก็ยังให้ลูกสาวไปเฝ้าประตูอยู่หน้าบ้านนั่นแหละ

เคยได้ยินว่ามีหลายประเทศที่ย้ายเมืองหลวง เพื่อกลยุทธ แต่ก็ดีนะ เดินทางสะดวกดี ถ้าไปอยู่ลึกๆ พวกเราก็คงไม่ได้ไปหรอกค่ะ

---

 

ประวัติ Bratislava, Slovakia

ชาวสโลวัคมีบรรพบุรุษมาจากเผ่าพันธุ์สลาฟ   ต่อมาก็ถูกชาวฮังกาเรียนรุกราน  จากนั้นก็โดนปกครองโดยราชวงศ์ Habsburg อีก

ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่1 ประชากรส่วนใหญ่เป็นเชื้อชาติเยอรมานิก และฮังกาเรียน ในสัดส่วนพอๆกัน  ที่เหลือเป็นชาวสโลวัคดั้งเดิมแค่ 15% เท่านั้น

หลังสงครามโลกครั้งที่1 (ปี 1918) ก็ถูกรวมประเทศกับเชค กลายเป็น Czechoslovakia

ชื่อ Bratislava เพิ่งจะถือกำเนิดเมื่อปี 1919 นี่เอง  และทุกคนหลั่งไหลเข้ามาอาศัยที่นี่ อย่างกับเข้ากรุงเทพฯ

 

 

เข้าสู่ยุคคอมมิวนิสต์

พอจบสงครามโลกครั้งที่2 ก็เป็นยุคสงครามเย็นอีก โดยมีสหภาพโซเวียต เข้ามารวบให้  Czechoslovakia กลายเป็นคอมมิวนิสต์ไปด้วย (ปี1948)

40กว่าปี ของการเป็นคอมมิวนิสต์ ภายใต้สหภาพโซเวียต เป็นช่วงที่ขมขื่นแสนสาหัสจริงๆ  ยุคนี้แหละที่เขาเรียกว่า ยุคหลังม่านเหล็ก หรือ The Iron Curtain  เป็นยุคที่มีการเคลื่อนไหวสละชีพเยอะมาก  แต่ 40 กว่าปี ก็เท่าๆกับช่วงชีวิตของคนๆหนึ่งได้เลยนะคะ

แต่ในที่สุด(ปี 1993 – ทางการ) คอมมิวนิสต์ก็ถูกสลาย  Czechoslovakia ก็ได้กลับไปเป็นประเทศของตัวเอง  โดยแยกเป็น ประเทศสโลวัคเกีย กับ ประเทศเชค

อย่าลืมนะคะว่า บราติสลาวา คือเมืองหลวงของประเทศสโลวัคเกีย  บราติสลาวา ไม่ใช่ชื่อประเทศนะคะ  พวกเราก็ได้แค่ไป Bratislava เท่านั้น ถ้าให้ไปทั้งประเทศสโลวัคเกีย คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันแน่ๆค่ะ

 

ดูจากแผนที่แล้ว รู้สึกเหมือนตอนเล่นเกมส์ Sim City เลยค่ะ

แบ่งเขตอย่างชัดเจนมาก  ถ้าขึ้นไปยืนบน Bratislava caslte จะเห็นได้ชัดมากค่ะ

---

 

สถานที่เที่ยวในบราติสลาวา

Bratislava Castle

ปี 1531 – 1783 ใช้ชื่อว่า Pressburg castle เป็นปราสาทหลักของอาณาจักรฮังการี

ปี 1783 – 1811  เป็นช่วงที่ปราสาทโดนถล่มจากสงคราม และถูกทิ้งร้าง

ปี 1811 – 1953 กลายเป็นซากปรักหักพังจนโดนเก็บชิ้นส่วนไปทำอย่างอื่น

หลังปี 1953  เริ่มวางแผนสร้างขึ้นใหม่

แต่เขาก็ไม่ได้สร้างเสร็จหมดทีเดียวภายในไม่กี่ปีนะคะ  แต่ละส่วนก็ใช้เวลาหลายปี เค้ามีหลายส่วนมากๆ ก็เลยร่วงเลยมาถึงประมาณปี 2013 นั่นเลย

และที่พวกเราไปเยือน(ปี2016) ก็ยังเห็นมีการก่อสร้าง ตกแต่งภายในบางส่วนอยู่เลย  สีขาวจั๊วะ กลิ่นใหม่เลย

 

Castle Museum

สำหรับพิพิธภัณฑ์ Bratislava Castle ค่าเข้า 7 ยูโร (ถ่ายรูปด้วยเพิ่ม 2 ยูโร)

พวกเราไม่ได้เข้าเพราะเวลามีน้อย ต้องไปที่อื่นต่อ  และตอนนั้นยังไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์มาเลย ก็ยังไม่อิน  และยังไม่เห็นความสำคัญซักเท่าไหร่ เลยตัดใจได้ไม่ยาก  แต่กลับมาคิดดูแล้วก็น่าเสียดายค่ะ  พอมาอ่านประวัติแล้ว ก็เริ่มอิน และอยากเข้าขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ

 

 

 

 

---

 

 

Bratislava old town

ที่นี่มีนักท่องเที่ยว และทัวร์เยอะมากๆค่ะ  แต่จะกระจุกกันเฉพาะใน old town  ซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ และอาคารเก่าแก่เยอะ  แต่ค่อนข้างจะผสมผสาน ห้างร้านเยอะแยะ แต่ไม่ค่อยสนใจ

 

จะมีรูปปั้นดูเหมือนคนจริงๆ ยืนทำท่าทาง หรือนั่งเก้าอี้ หรือโผล่มาจากท่อ(ฮิตสุด) ดึงดูดความสนใจได้ดี  ถ้าเดินเฉพาะเมืองเก่า ไม่เกิน 1 ชม. ก็ครบแล้วค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

---

 

 

Hrad Devin หรือ Devin Castle

พื้นที่แถวนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ชั้นยอด มีแม่น้ำ Danube และแม่น้ำ Morava ไหลผ่าน  ทำให้เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่ง  จึงมีปราสาทเก่าแก่ตรงนี้ ไม่ทราบปีที่สร้างแน่ชัด แต่เริ่มปรากฏในบันทึกทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกเมื่อปี 864

Devin Castle เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ Slovakia  มีการสร้างต่อเติมมากขึ้นตามกาลเวลากว่าพันปี จนกระทั่งถูกถล่มลงในปี 1809 ในยุคนโปเลียน  แต่เพิ่งจะได้รับการบูรณะเมื่อศตวรรษที่ 20 นี้เอง

 

วิธีไป Devin Castle

ลง Flixbus แล้ว ก็รอรถบัสสาย 29 ที่จุดเดียวกันได้เลย ไม่ต้องเดินไกล

การดูตารางเวลาต้องดูดีๆนะคะ เพราะพวกเรามาถึงบราติสลาวา 9 โมงครึ่ง  แต่ดูผิดคิดว่าจะมีรถมาตอน 10 โมง  อันที่จริงถ้าช่องเว้นว่างคือหมายความว่า ไม่มีรอบรถ  แต่ถ้ามีรอบรถก็จะเขียน 00 ด้วย

พอรอถึง 10 โมง รถไม่มา ก็เลยเพิ่งจะเข้าใจ ก็เลยเปลี่ยนแผน ไปเดิน Old town แล้วค่อยกลับมาขึ้นบัสรอบ 12.10 ต่อ

จะเห็นว่าถ้าจะเดินทางจาก Most SNP ไป Devin Castle ก็แค่นั่งบัส 29 สุดสาย  ส่วนตัวเลขข้างหน้าชื่อป้ายก็คือจำนวนนาที  ซื้อไปถึง Devin Castle ต้องใช้เวลา 19 นาที  และที่เราต้องรู้จำนวนนาทีในการเดินทางก็เพราะเราต้องซื้อตั๋วตามนาทีค่ะ

ตู้ขายตั๋วที่ป้ายรถบัสจะมี 2 แบบ แบบรูปซ้าย ไม่รู้ว่าเป็นตั๋วอะไร  แต่ที่เราจะซื้อคือตู้ขวา ซึ่งระบุนาทีด้วย

จากที่บอกไปแล้วว่าจะไป Devin Castle ต้องใช้เวลา 19 นาที  แต่ตั๋วมันมีขาย 15 , 30 , 60 , 90 นาที ดั้งนั้นเราต้องซื้อชนิด 30 นาที แค่คนละ 0.9 ยูโรเท่านั้น

การเดินทางในบราติสลาวา ซื้อตั๋วเป็นรอบๆดีกว่า เพราะตั๋วถูกอยู่แล้ว แล้วเราก็แค่ไปกลับ 2 รอบเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ววันค่ะ

 

 

 

 

 

Devin Castle น่าไปมั้ย

ตอนแรกที่พวกเราคิดจะไป ไม่ได้คิดว่าจะมีค่าเข้า หรือการบูรณะอะไรเป็นเรื่องเป็นราวหรอกค่ะ  นึกถึง Dürnstein อย่างเดียวเลย  แต่พอไปถึง ต้องมีเข้าเข้า 4 ยูโร ด้วยนะ ไม่ติดใจอะไรกับค่าเข้านักหรอกค่ะ

เดินเข้าไปหาห้องน้ำ เอ้ย…ชมส่วนแรก ไม่รู้คืออะไร

 

Gate House Hrad Devin เป็นประตูทางเข้าในส่วนของทหารรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่15   ด้านในจะมีห้องยาวๆ ซึ่งสามารถจุทหารได้ถึง 20 คน

 

 

ข้างในก็มีพื้นที่กว้างขวาง มีจัดแสดงส่วนที่เป็นซากหลายจุด  แต่ที่เราต้องการคือ ห้องน้ำ 555+  ก็ข้างนอกมันก็มีห้องน้ำนะ แต่มันล็อคค่ะ เข้าไม่ได้อ่ะ

ขึ้นมาก็จะเจอซากปราสาทแบบนี้  เหลือแค่นี้ล่ะค่ะ  เหมือนขึ้นมาชมวิวซะมากกว่า

ไม่น่าเชื่อนะว่าปราสาทนี้ ถูกสร้างขึ้นก่อนศตวรรษที่9  แล้วก็ยังคงแข็งแรงอยู่รอดมาได้ถึงต้นยุคศตวรรษที่ 19 พันกว่าปี อยู่มาได้ไง  แต่ที่มันเป็นซากแบบนี้ก็เพราะยุคสงครามนโปเลียนเมื่อ 2ร้อยกว่าปีมานี้เองค่ะ

 

จุดที่สูงที่สุดของปราสาทซึ่งเป็นปราสาทหลัก ยังปิดซ่อมแซมอยู่ ทำให้วิวที่นี่ดูเหมือนจะสู้ที่ Duernstein ไม่ได้ เพราะขึ้นไปบนยอดปราสาทไม่ได้  แต่ก็ยังเห็นวิวสวยๆอยู่ดีค่ะ เราก็ได้แต่เดินพื้นที่รอบๆเท่านั้น

 

โดนกดดันให้ซื้อของที่ระลึก

เราตกใจมากที่ที่นี่เขาชักชวนให้ซื้อของที่ระลึกกันแบบ hard sale กันขนาดนี้เลยหรอ  เพราะที่ผ่านเยอรมัน ออสเตรียมา ไม่มีที่ไหนกวักมือเรียกให้เข้า ขอร้องให้ซื้อเลย

คือเค้าจะเชื้อเชิญให้เราเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ แบบกวักมือเรียกกันเลยนะ (ฟรีค่ะ) เหมือนตอนจะซื้อตั๋วรถบัส รถตู้น่ะค่ะ

พอเราดูจบ กำลังจะเดินออก คนดูแลก็จะรีบปลี่เข้ามา แนะนำนู่นี่นั่น หยิบไอ้นั่นมาให้เราจับ  พูดประมาณว่า แค่ไม่กี่ตังค์เอง  มันก็ไม่กี่ตังค์จริงๆนะคะ มีตั้งแต่ 0.5 , 1 ยูโร(อันจิ๋วๆ) ใหญ่ขึ้นก็ราคามากขึ้น  แต่ของแต่ละอย่างเราไม่รู้จะเอาไปทำอะไรค่ะ ไม่ชอบด้วย

ที่สำคัญคือ ไม่ชอบโดนบังคับ  ถ้าวางไว้เฉยๆ ติดราคา ให้เราเลือกเอง อาจจะซื้อก็ได้นะ พอเราจะไม่ซื้อก็ทำหน้างอ บ่นๆๆ  ไม่สน ไปดีกว่า

 

ซุ้มคอสเพลย์

ชักจะไม่ค่อยชอบที่นี่ซะแล้ว  พากันจะเดินย้อนทางเก่า เพื่อออกจากเขตปราสาท  ก็เห็นซุ้ม 4 ซุ้ม เหมือนเต้นคนโบราณ ยุคอัศวิน ยุคกลาง อะไรแบบนี้  แถมมีคนแต่งตัวคอสเพลย์แบบยุคกลางด้วยนะ

คิดไว้แล้วว่า ต้องขายอะไรแน่ๆ  แต่เราใจแข็งซะอย่าง  ขี้เกียจแบกของ แต่ขอไปดูซะหน่อยดีกว่า

เขาก็อธิบายเกี่ยวกับอาวุธโบราณต่างๆ ให้เราฟังแค่สองคน  เราเลยรู้สึกเกรงใจยังไงไม่รู้  แต่ก็ยังมีคิดว่า เดี๋ยวสุดท้ายต้องขายอะไรแน่ๆ…

ฟังไปฟังมา เฮ้ย…เค้าจริงใจว่ะ  บอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องตั้งแต่ต้น ก็ลองไปเริ่มที่เต้นท์แรก เป็นที่อยู่อาศัย  เต้นท์ที่สองเป็นหัวสัตว์ เสื้อผ้า เครื่องประดับ  เราก็จะได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนโบราณได้

ผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบจริงๆ  แต่น่าจะมากกว่า 30 นาที ที่เค้าอธิบาย “ให้เราฟังแค่ 2 คน”  เค้าจะลงทุน เสียแรงมากไปมั้ย  จะคุ้มเหนื่อยเค้าหรอ

 

 

 

นักท่องเที่ยวไม่มีมารยาท

ระหว่างนั้นก็มีนักท่องเที่ยว(น่าจะจีน อายุเยอะๆหน่อย) เข้ามายื่นเศษเงิน เป็นเหรียญยูโร 1 ยูโร ให้เขา  แล้วทำท่าประมาณว่าขอถ่ายรูป  โดยที่ไม่ได้สนใจจะฟังอะไรเลย

คนอธิบายก็ปฏิเสธด้วยความสุภาพ  แต่พอนักท่องเที่ยวคนนั้นไป เขาก็หันไปพูดกับเพื่อนประมาณว่า

“มันทำอย่างกับเราเป็นขอทาน ยื่นเศษเงินให้”

มันน่าเกลียดมากค่ะที่นักท่องเที่ยวทำแบบนั้น  จากสถานการณ์นี้ก็เลยคิดว่า ทริปต่อๆไป เราน่าจะพกของที่ระลึกเล็กๆน้อย (เบาๆ) ติดตัวไปบ้าง  เผื่อเราประทับใจใคร เราจะได้ให้สิ่งตอบแทนน้ำใจ น่าจะดีกว่าการให้เศษเงินนะคะ

 

สำรวจพื้นที่รอบๆปราสาท

 

 

 

 

 

 

 

เดินครบรอบ ก็มาบรรจบที่ป้ายรถบัสที่เดิม จากนั้นก็กลับไป Bratislava ทันเวลา Flixbus กลับ Vienna พอดี

 

---

 

สรุป

คุ้มเวลามั้ยที่จะไปเที่ยว Bratislava  

• คุ้มนะคะ คุ้มมากๆ กับค่ารถบัส ไป-กลับ 10-15 ยูโร (จากเวียนนา)

 

ควรค้าง Bratislava มั้ย

• สำหรับพวกเราคิดว่าไม่อยากค้างค่ะ เมืองไม่ค่อยน่าอยู่เท่าไหร่ เดินเล่นเรื่อยๆ โอเค  แล้วก็ไม่ได้มีที่เที่ยวเยอะอะไรขนาดนั้น  แต่ค่าที่พักอาจจะถูกก็ได้นะ หรือถ้าใครอยากเจาะลึก คงต้องค้างอ่ะค่ะ

 

Bratislava Castle Museum น่าเข้ามั้ย

• บอกไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ได้เข้า  แต่ถ้าจะเข้า คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง  แต่ถ้าใครไม่เกี่ยงเรื่องเงิน ก็เข้าเถอะค่ะ

 

Devin castle น่าไปมั้ย

• แม้จะใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 40 นาที กับเงินไป-กลับ 1.8 ยูโร แต่คุ้มมากค่ะ  และแนะนำให้เข้าชมด้านในด้วยนะคะ 4 ยูโร (พอรับได้)  ใช้เวลาชมประมาณ 30 นาที(เดินผ่านๆ) ถ้าเม้าท์กับ cosplayer ่ด้วยก็อาจเป็นชั่วโมงกว่าได้นะ

 

ความรู้สึกต่อ Devin castle

• ส่วนอื่นๆไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากนักค่ะ ขึ้นไปดูวิวก็โอเค  แต่ถ้าเปิดส่วนของตัวปราสาท ที่ให้ขึ้นไปดูวิวได้สูงๆ แบบนี้ก็น่าสนใจมากขึ้นค่ะ (ไม่รู้จะเพิ่มราคารึป่าวนะ)  แต่ส่วนของซุ้มนี่น่าสนใจค่ะ ถ้าฟังภาษาอังกฤษพอรู้เรื่องนะ

 

---