Christmas museum Rothenburg

เที่ยวเยอรมัน-82

เมืองเก่าโรเทนเบิร์ก แวะ Christmas museum

ตอนที่แล้วพวกเรานั่ง รถไฟไปโรเทนเบิร์ก และเข้าเช็คอินที่ Pension Becker เรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้ตัวเบาได้เวลาสำรวจเขตเมืองเก่า และตรงไปที่ Christmas museum กันเป็นที่หมายแรกค่ะ


 

ทำความรู้จักับโรเทนเบิร์กให้มากขึ้น

ชื่อเต็มๆคือ Rothenburg ob der Tauber

Rot = Red  แปลว่า สีแดง

Burg = burgh, medieval fortified settlement  แปลว่า ตำบล หรือ ป้อมยุคกลาง

Tauber เป็นชื่อแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ

รวมแล้วก็แปลว่า ป้อมสีแดงเหนือแม่น้ำ Tauber  หรือไม่ก็ อาจจะมาจากการที่มองลงมา เห็นบ้านเรือนหลังคาสีแดงเต็มไปหมดก็เป็นไปได้

แต่บางที่ก็บอกว่า Rothen แผลงมาจากคำว่า Rotten ในภาษาเยอรมัน  ที่หมายความเกี่ยวกับกระบวนการผลิตแฟล็ก และลินิน เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่เพาะปลูก


 

เที่ยวเยอรมัน-80
Saint Jakob หรือ Saint James’s Church

ประวัติ Rothenburg

เมืองโรเทนเบิร์กเริ่มปรากฏในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ค.ศ.950  เดิมเป็นพื้นที่เพาะปลูก เป็นฝาย หรือเขื่อน ซึ่งอยู่บนที่เดียวกับสวน Burggarten ในปัจจุบัน

ร้อยกว่าปีต่อมา (ค.ศ.1070) ก็มีท่านเคานท์ที่ปกครองเมือง  สั่งให้สร้างปราสาทขึ้นที่ยอดภูเขา เหนือแม่น้ำ Tauber  (ปัจจุบันปราสาท เหลือแต่ซากไปแล้ว)

สร้างปราสาทที่ว่าขึ้นมา เพื่อชมทัศนียภาพที่สวยสดงดงามของเมือง และแม่น้ำที่ไหลผ่าน

 

เที่ยวเยอรมัน-85
เส้นทางเดินเมืองเก่า โรเทนเบิร์ก

เคยเป็นเมืองใหญ่ในอดีต

อีกร้อยปีต่อมา (ค.ศ.1170) ก็เริ่มมีการพัฒนาเมืองอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจาก ป้อมปราการที่แข็งแกร่งขึ้น  Market square และ St. Jame’s Church (ภาษาเยอรมันเรียก St. Jakob)

อีกร้อยปีต่อมา (ค.ศ.1274) ถูฏเรียกว่าเป็นเมือง Free Imperial City หรือ เมืองที่ปกครองตนเอง  เพราะมีการขยายตัวของเศรษฐกิจ และจำนวนประชากรเร็วมาก

มีการสร้าง กำแพงเมือง และ Town hall  ซึ่งมี Tower สีขาว ที่พวกเราจะได้ปีนขึ้นไปชมด้วยค่ะ

ประชากรที่อยู่ภายในกำแพงเมืองประมาณ 5,500 คน  ส่วนที่อยู่นอกกำแพงเมืองอีกประมาณ 14,000 คน ซึ่งเป็นปริมาณที่ถือว่าเยอะแล้วในสมัยนั้น

และถือว่าเป็นเมืองที่ติดอันดับเป็น 1 ใน 20 ของเมืองที่ใหญ่ที่สุด ใน Holy Roman Empire

จนกระทั่งปี 1803 Rothenburg ก็ได้ถูกรวมอยู่ในรัฐบาวาเรีย

 

 

สงครามโลกครั้งที่สอง

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ.1945)  เมืองโรเทนเบิร์กก็โดนทิ้งระเบิดด้วยเหมือนกัน  แต่มีคนใหญ่คนโตชาวอเมริกัน ที่เกี่ยวข้องกับภาระกิจทิ้งระเบิดนี้ ได้ช่วยเหลือไว้

ด้วยความที่ชอบเมืองนี้มาก และเสียดายความสวยงามของเมืองนี้ ก็เลยสั่งห้ามใช้ปืนใหญ่  เพื่อลดความเสียหาย

ด้วยการก็ส่งตัวแทนเข้าไปเจรจาว่า ถ้าไม่ตอบโต้ เราจะยกเว้นเมืองนี้ ไม่ทำลายทิ้ง

ผู้นำของเมืองโรเทนเบิร์กในขณะนั้น  ก็ตัดสินใจตกลงยอมแพ้  และเลือกที่จะขัดคำสั่งของฮิตเลอร์  เพื่อปกป้องเมืองไม่ให้เสียหายมากไปกว่านี้ (ซึ้งน้ำใจ…)

หลังจบสงคราม ประชาชนก็เร่งสร้างเมืองขึ้นมาใหม่  และได้รับการบริจาคหินมาจากทั่วโลก  แต่ละก้อนก็จะมีสลักชื่อผู้บริจาคไว้ด้วยค่ะ


 

เที่ยวเยอรมัน-81
ถนนสายหลักในโรเทนเบิร์ก

สวยจริงมาแต่โบราณ

เห็นแบบนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องการันตีได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ ว่าโรเทนเบิร์กเป็นเมืองที่สวยจริง ไม่ได้ตามกระแส

ยิ่งมาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว เหมือนหลุดเข้ามาในเทพนิยาย หรือเกมส์แนวอัศวิน  หรือดิสนี่ย์แลนด์โซนแฟนตาซีที่ไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู

หลังคาบ้านทุกหลังพร้อมใจกันเป็นสีแดง (อย่างกับหมู่บ้านพฤกษา)

สไตล์การตกแต่งน่ารัก  ถ่ายรูปสวยทุกมุมแม้ว่าจะไม่ใช่ช่างภาพ หรือแม้กระทั่งคนถ่ายรูปไม่เป็นแบบแอดมิน  ยังรู้สึกว่า กดชัตเตอร์มุมไหนก็สวยไปหมด


 

พวกเราเดินถนนสายหลัก ไปจนถึง Burggarten ที่ดูแล้วน่าจะใหญ่ ก็เลยเก็บไว้ก่อน ตอนนี้รีบไป Christmas museum ก่อนดีกว่าค่ะ

 


 

เที่ยวเยอรมัน-83
Christmas museum Rothenburg

Christmas museum

พิพิธภัณฑ์คริสต์มาสต์ เป็นสถานที่ที่ตั้งใจจะมาเต็มที่ค่ะ เพราะเคยเห็นในรูปแล้ว มันอลังการจริงๆ

ค่าเข้าคนละ 4 ยูโร (~160 บาท)

ภายในห้ามถ่ายรูป

 

ความรู้สึกหลังจากเข้าชมแล้ว

ส่วนของพิพิธภัณฑ์มีไม่เยอะมากค่ะ เป็นการจัดแสดงของประดับตกแต่ง ในเทศกาลคริสต์มาสต์ มาตั้งแต่สมัยโบราณ

เชื่อมั้ยคะว่า แรกเริ่มซานตาครอสไม่ได้ใส่ชุดสีแดงนะคะ  เขาแค่เป็นคนธรรมดาเอาของมาแจก

แต่ปัจจุบันที่เห็นซานตาครอสใส่ชุดสีแดง เพราะเป็นการตลาดของยุคใหม่  ที่สร้างแบรนด์ เพื่อขายของนั่นเองค่ะ

กิจกรรมที่ต้องทำในช่วงคริสต์มาสต์ก็คือ การตกแต่งต้นไม้ ก็จะมีการประกวดการตกแต่ง ซึ่งล้วนแต่อลังการ แบบที่คิดว่า นี่เขานั่งประดิษฐ์มาทั้งปีแน่ๆเลย

 

คุ้มมั้ยที่จะเสีย 4 ยูโรเข้าพิพิธภัณฑ์

จะว่าไป 4 ยูโร ก็ถือว่าไม่แพง(สำหรับบ้านเขานะคะ)

แต่สำหรับพวกเราที่ไม่ได้อินอะไรกับเรื่องคริสต์มาสต์เลย  ยังไม่ถึงกับแตะขั้วหัวใจ ที่จะทำให้อยากแนะนำให้เข้าไปชมได้ค่ะ

เพราะส่วนของพิพิธภัณฑ์จริงๆ ดูแป๊บเดียวก็หมดแล้วค่ะ (ดูเก่าๆนิดๆ)  แต่ส่วนที่อลังการน่ะ คือส่วนของสินค้าที่วางขายต่างหากค่ะ

ของที่ขายมันเยอะจริงๆ จนต้องไปตั้งร้านเพิ่มฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ

 

สวยจริงมั้ย

เรากำลังพูดถึงเฉพาะบริเวณขายของนะคะ   เรื่องสวยคงไม่ต้องบรรยาย  แต่เรื่องราคานี่ต้องร้องว้าวกันเลยค่ะ บางอันหลายพันยูโร  บางอันหลายหมื่นยูโร  จะบ้าหรอ ตีเป็นเงินไทยก็เป็นแสนเลยนะ

เป็นบ้านไม้แกะสลัก ขนาดเท่าบ้านแมว  แต่มันสวยจริงๆค่ะ  ถ้าเอามาวางในบ้านพวกเราคงเสียราคาแย่เลย

ที่ถูกที่สุดคงจะเป็นโปสต์การ์ด (มีตรงหน้าประตูให้หยิบฟรีด้วย)  ขนาดของประดับพวกลูกกลมๆก็ร้อยกว่าบาทแล้วค่ะ  ถ้าใครคิดจะประดับต้นไม้คงต้องใช้เงินหลายพันแน่ๆ

แต่นี้คือเทศกาลของเขานี่คะ  เหมือนว่าชาวยุโรปเขาจะมีหัวศิลปะ ชอบตกแต่งน่าดูเลยนะคะ

 

สำหรับคนที่อยากประหยัดเงิน  แอดมินคิดว่า เข้าไปดูแค่ส่วนที่ขายของดีกว่าค่ะ (เข้าฟรี) น่าตื่นตาตื่นใจกว่าเยอะเลย  ส่วนคนที่อยากเก็บประวัติศาสตร์ ก็ลองเข้าไปดูก็ได้


 

วิดีโอ Walking through the Rothenburg old town toward Christmas museum : Germany-Austria Travel Vlog Ep36

 


รวมลิ้งค์ทุกตอน รีวิวเที่ยวยุโรป Season1


 

 

 

สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้

  • เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
  • GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
  • กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide

ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.