การขอวีซ่าไม่ใช่แค่การกรอกเอกสารหรือจ่ายค่าวีซ่าเท่านั้น แต่ต้องเตรียมตัวหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่อง “ใครเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย” และ “มีผู้เชิญหรือไม่” เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวบอกว่าเราต้องส่งเอกสารอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้มีโอกาสผ่านวีซ่ามากที่สุด
กรณีที่ มีผู้เชิญ
การมีผู้เชิญไปต่างประเทศ เช่น ญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก จะต้องดูว่า ผู้เชิญออกค่าใช้จ่ายให้หรือไม่
แบบที่ 1: ผู้เชิญออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
- สถานทูตจะพิจารณาการเงินของ ผู้เชิญ
- เอกสารที่ผู้เชิญต้องเตรียม
- จดหมายเชิญ
- ใบรับรองค่าใช้จ่าย
- หลักฐานความสัมพันธ์ เช่น เอกสารราชการ, รูปถ่ายร่วมกัน, ประวัติแชท
- หลักฐานการเงินของผู้เชิญ เช่น Statement
แบบที่ 2: ผู้เชิญให้ที่พัก แต่ไม่ได้ออกค่าใช้จ่าย
- สถานทูตจะพิจารณาการเงินของ ผู้ยื่น
- เอกสารที่ผู้เชิญต้องเตรียม:
- จดหมายเชิญ ระบุว่าให้ที่พักเท่านั้น
- หลักฐานความสัมพันธ์
กรณีที่ ไม่มีผู้เชิญ
ในกรณีที่ผู้ยื่น ไปท่องเที่ยว ไม่มีคนเชิญ หรือไม่ได้ไปเยี่ยมใครโดยเฉพาะ จะมี 2 ทางเลือกคือ ออกเงินเอง หรือ มีสปอนเซอร์
แบบที่ 1: ออกเงินเอง
- เอกสารผู้ยื่นต้องเตรียม
- หลักฐานการเงินของผู้ยื่น
- ใบจองโรงแรม
- แผนการเดินทาง
- ใบแสดงเที่ยวบินใช้ขอวีซ่า
แบบที่ 2: มีสปอนเซอร์ออกเงินให้
- สถานทูตจะพิจารณาความสัมพันธ์ และการเงินของสปอนเซอร์
- เอกสารผู้ยื่นต้องเตรียม
- ใบจองโรงแรม
- แผนการเดินทาง
- หลักฐานการเงินของสปอนเซอร์
- หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น เอกสารราชการ, รูปถ่ายร่วมกัน, ประวัติแชท
สรุป: สิ่งที่ต้องถามตัวเองก่อนขอวีซ่า
- ไปประเทศอะไร? เพราะแต่ละประเทศมีวิธีขอวีซ่าที่ต่างกัน
- มีผู้เชิญมั้ย? เพราะบางสถานทูตต้องการใบการันตีจากทางการตัวจริง
- ใครออกค่าใช้จ่าย? ถ้าออกเงินเองต้องเดินบัญชี 3 เดือน
- เดินทางเมื่อไหร่? ควรเตรียมตัวก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 2 เดือน
- พาสปอร์ตหมดอายุมั้ย? ควรมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
อีบุ๊คที่เกี่ยวข้อง


ซื้ออีบุ๊ค คลิ๊กที่รูป
วิดีโอสำหรับสมาชิกยูทูป
ติดต่องานวีซ่า
ทำวีซ่า แปล จดหมาย ประกัน ตั๋วบิน และอื่นๆ ได้ที่ www.gonoguide.com/support
Youtube Short