เดินจาก Wurzburg Hbf ไป Hotel ibis

ตอนที่แล้วพวกเรานั่ง รถบัสจาก Frankfurt ไป Wurzburg ซึ่งรถก็จะไปจอดที่ Hbf เลยค่ะ  ตอนนี้เราต้องเดินจาก Wurzburg Hbf ไป Hotel ibis ซึ่งไกลพอสมควรค่ะ

---

 

Wurzburg Hbf

วันนี้ถือว่าพวกเราได้เหยียบเข้ามาในเขตบาวาเรียแล้วนะคะ ให้ความรู้สึกเหมือนอนุสาวรีย์ ที่ไม่รู้ไปยังไงก็ต้องมาเริ่มต้นที่นี่แหล่ะค่ะ

Wurzburg Hbf จริงๆเดิมชื่อ Ludwig’s station(Ludwigbahnhof) เป็นสถานีรถไฟแรกของ Wurzburg  ตั้งตามชื่อของกษัตริย์สมัยนั้นคือ King Ludwig I  สร้างเสร็จเมื่อปี 1852

แต่ด้วยการจราจรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เลยต้องขยายจนกลายเป็นสถานีรถไฟหลัก (Hauptbahnhof) และสร้างเสร็จเมื่อปี 1863 (ห๊ะ…ร้อยห้าสิบกว่าปีแล้วรึเนี่ย)

---

จุดจอดรถ Flixbus

จุดจอด Flixbus ไม่ไกลจากสถานีรถไฟหลักค่ะ ดังนั้นเรื่องจะไปต่อที่อื่นคงไม่มีปัญหา ตัวสถานีค่อนข้างดูดีนะคะ จะบอกว่าหรูก็น่าจะได้นะ แถมใหญ่กว่าที่คิดด้วย

ที่จอดรถก็เยอะ เป็นท่ารถเมล์ จะต่อรถเมล์ รถไฟก็รวมไว้ที่ที่เดียว เยอรมนีมีระบบการขนส่งที่เยี่ยมมากๆ (แค่แพงไปหน่อย แหะๆ)

ถึงจะมีรถรางแต่ก็น้อย และตั๋วก็แพงด้วยค่ะ  แต่ที่เที่ยวดังๆใน Wurzburg สามารถเดินถึงกันได้ เป็นเมืองเล็กๆ  ไม่จำเป็นเลยที่จะซื้อตั๋วใดๆค่ะ

ถึงจะบอกว่าเล็ก แต่กว่าจะจับทิศไปโรงแรมได้ก็วนอยู่นิดนึงนะคะ

วันนี้คนไม่เยอะค่ะ  บางตาจนน่าแปลก ถึงจะเป็นวันธรรมดา ช่วงกลางวัน แต่ก็ไม่น่าจะน้อยได้ขนาดนี้นะ

แต่ก็ยังเห็นขอทาน นั่งวางขันอยู่ มีคนแต่งตัวโทรมๆ เหมือนคนไร้บ้านก็มี  ไม่น่าเชื่อ นึกว่าจะมีแต่แฟรงค์เฟิร์ทซะอีก

---

 

เดินหาโรงแรม

พวกเราจะพักที่เมืองนี้ 1 คืน และโรงแรมที่ถูกที่สุดที่ได้คือ Hotel ibis Wurzburg city ซึ่งมันค่อนข้างไกลค่ะ กิโลกว่าๆ

ถ้าเดินตัวเปล่าๆก็คงสบายบรื๋อ แต่นี่ต้องลากกระเป๋าไปด้วย และก็มีเสียงดังกระหึ่ม กลัวคนในบ้านขว้างขนมปังใส่จริงๆ (ขนมปังฝรั่งเศสที่นี่แข็งมาก)

แต่ระหว่างทาง มันคือบรรยากาศในฝัน ที่อยากอยู่แบบนี้เลยล่ะค่ะ  สงบ เรียบร้อย สวย มีสวนสาธารณะ อากาศก็ดี ยังคิดอยู่ว่าคนเขาไปไหนกันหมด

ไม่ได้หลงเข้าข้างเมืองนอกนะ  แต่มันดีจริงๆค่ะ  คุณภาพชีวิตแบบนี้ใครไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ไม่อินหรอกค่ะ  เพราะก่อนมาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน

เถียงตัวเองว่าเมืองไทยก็มีที่ดีๆแบบนี้นะ  ในราคาที่เท่ากัน อยู่เมืองไทยก็ได้เป็นราชาแล้ว  อยากสงบก็ไปวัดสิ

แต่มันได้แค่ระแวกนั้นไงค่ะ ยังไงเราก็ต้องออกข้างนอก อยู่ในสังคม เดินทางไปนู่นไปนี่ มันก็ไม่ได้เป็นระเบียบตลอดทางนี่คะ  วัดที่สงบๆน่านับถือจริงๆ ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้วด้วย

ถึงระยะทางไปโรงแรมจะไกล แต่ระหว่างทางไม่ได้น่าเบื่อเลยค่ะ และแล้วพวกเราก็มาถึง Hotel ibis Wurzburg city 

---

 

Check-in

ตอนเข้าเช็คอินก็คิดว่าจะฝากกระเป๋าไว้ก่อน แล้วก็เริ่มออกเดินทางเลย  แต่พนักงานบอกว่ามีห้องว่าง สามารถเข้าได้เลย  เรางี้ซาบซึ้งค่ะ เพราะมันยังไม่ถึงเวลาเช็คอินตอนบ่าย3

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่พวกเราจ่ายเงินล่วงหน้าไว้แล้ว (จองจาก booking.com) เพราะจะได้ราคาถูกกว่า  แต่ก็ต้องหน้าแตกตรงที่ จองเป็นแบบคนเดียว

ตอนแรกก็แย้งเขาว่า ก็นี่เป็น Double room ไม่ใช่หรอ เขาก็เลยอธิบายว่า ทุกห้องเป็น Double room หมดค่ะ ขนาดเตียง ขนาดห้อง เท่ากันหมด

ขึ้นอยู่กับเข้าพักกี่คน ถ้าคนเดียว (ราคาที่ได้ตอนนั้น) 51 euro  ถ้าสองคน เพิ่มอีก 10 euro

แล้วพวกเราก็ลืมดูจำนวนผู้เข้าพักที่แสดงในใบจองด้วยว่ามันคือ 1 person  ก็เลยหน้าแตกไปตามระเบียบ

สรุปแล้วก็ต้องจ่ายเพิ่ม 10 ยูโร + ภาษี 0.3 ยูโร  รวมเป็น 61.3 ยูโร (~2450 บาท) ซึ่งก็ยังถูกกว่าโรงแรมอื่นๆอยู่ดีค่ะ

ส่วนห้องที่ได้นั้น สวยเกินบรรยายค่ะ นี่เราอัพเกรดตัวเองมาพักห้องระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ (มันไม่ค่อยมีให้เลือกน่ะ)

รีวิว ibis Hotel Wurzburg City

---

 

มื้อเที่ยง

ตอนนี้ก็เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ก็เลยคิดว่าจัดการอาหารที่เหลือให้หมดดีกว่า จะได้ไม่ต้องแบกไป  ไปกินอีกทีก็ตอนขากลับถึงโรงแรมเลยละกัน

ของกินก็เหมือนของที่กินบนรถค่ะ  ขนมปัง  เบอร์เกอร์หมู สาหร่ายวากะเมะ (ไม่รู้เรียกว่าสาหร่ายเคลป์ได้หรือเปล่านะ) แล้วก็พวกเครื่องดื่มที่เหลือๆ

กินจนอิ่มน่าจะอยู่ถึงเย็นได้แล้ว พักผ่อนซักหน่อย ก็เริ่มออกเดินทางกันต่อค่ะ

---

 

วิดีโอ Walking from Wurzburg Hbf to Hotel ibis : Germany-Austria Travel Vlog Ep29 

 

---

รวมลิ้งค์ทุกตอน รีวิวเที่ยวยุโรป Season1

---

 

 

 

---